ปฏิบัติการ SAVING GOOD MAN ตำรวจไซเบอร์บุกบริษัทอดีตผู้สมัคร สส. บัญชีรายชื่อ ทลายแก๊งรับปลอมเอกสารยื่นขอวีซ่านิวซีแลนด์ เปิดทางผีน้อยโซนยุโรป

ปฏิบัติการ SAVING GOOD MAN

ตำรวจไซเบอร์บุกบริษัทอดีตผู้สมัคร สส. บัญชีรายชื่อ

ทลายแก๊งรับปลอมเอกสารยื่นขอวีซ่านิวซีแลนด์ เปิดทางผีน้อยโซนยุโรป

.

ตามนโยบายของรัฐบาล โดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการราชการแทน ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์เร่งรัดปราบปรามความผิดที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในทุกมิติ

.

วันพฤหัสบดีที่ 11 เม.ย.67 เวลา 13.30 น. ณ อาคารสัมมนาและฝึกอบรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (เมืองทองธานี)

นำโดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2 และ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 ร่วมกับ คุณ Justin Alves ผู้จัดการด้านการตรวจสอบและวิเคราะห์ความเสี่ยง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ปรึกษา สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองนิวซีแลนด์ (Risk & Verification Manager, South East Asia

Counsellor-Immigration New Zealand) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว “ปฏิบัติการ SAVING GOOD MAN กรณี ตำรวจไซเบอร์บุกบริษัทอดีตผู้สมัคร สส. บัญชีรายชื่อ ทลายแก๊งรับปลอมเอกสารยื่นขอวีซ่านิวซีแลนด์ เปิดทางผีน้อยโซนยุโรป

.

สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.3 ได้รับประสานข้อมูลจากสถานเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์กรุงเทพ แผนกตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงธุรกิจ นวัตกรรม และการจ้างงาน ว่าตรวจพบการปลอมแปลงเอกสารในการยื่นขอต่อวีซ่าแบบออนไลน์ของสถานทูตนิวซีแลนด์แบบออนไลน์ ผ่านช่http://xn--www-1kla9g0gsb.immigration.govt.nz/new-zealand... โดยพบเอกสารที่ถูกปลอมแปลงเกี่ยวกับรายการเดินบัญชี จำนวน 6 ราย และเอกสารรับรองการทำงาน จำนวน 5 ราย และยังพบข้อมูลในลักษณะเดียวกันที่ถูกแชร์ระหว่างประเทศพันธมิตรทั้ง 5 (ได้แก่ อังกฤษ อเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์) เกี่ยวกับเอกสารการยื่นขอวีซ่าที่ถูกปลอมแปลงอีก จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

.

ต่อมา พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3

ส่งเจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าว เนื่องจากการกระทำดังกล่าวสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย จนทราบว่า เอกสารปลอมดังกล่าวมีที่มาจาก บริษัท เออีซี ไทยดีเวลล็อปเมนต์ จำกัด ที่มีนายจิรสิน อายุ 50 ปี ชาวอุดรธานี อดีตผู้สมัคร สส. แบบบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองหนึ่งเป็นเจ้าของอีกทั้ง จากการตรวจสอบ ยังพบว่ามีการโฆษณาผ่านทางเฟซบุ๊กแฟนเพจของบริษัท ซึ่งมีผู้ติดตามเกือบ 2 หมื่นคน ว่ารับแต่งบัญชีเพื่อประกอบการยื่นขอวีซ่าเข้าประเทศนิวซีแลนด์และกลุ่มประเทศพันธมิตร

.

เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลจังหวัดอุดรธานีออกหมายค้น กระทั่งวันพุธที่ 9 เม.ย.67 พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 พร้อมด้วย พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี ผกก.1 บก.สอท.3 และ พ.ต.อ.มรกต แสงสระคู ผกก.2 บก.สอท.3 ได้ร่วมนำกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 2 จุด ได้แก่

.

จุดที่ 1 บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.5 ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี

พบตัวนายจิรสิน และสามารถตรวจยึดหลักฐานสำคัญ 14 รายการ อาทิ อุปกรณ์สำรองข้อมูล เอกสารทางการเงิน สมุดบัญชี เอกสารเกี่ยวกับการขอวิซ่า รายการบันทึกลูกค้า เป็นต้น

.

จุดที่ 2 บริษัท เออีซี ไทยดีเวลล็อปเมนต์ จำกัด ตั้งอยู่พื้นที่ ม.5 ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี

จากการตรวจค้นสามารถตรวจยึดของกลางจำนวน 9 รายการ อาทิ คอมพิวเตอร์ แฟลชไดรฟ์ สมุดบัญชีลูกค้าเอกสารเกี่ยวกับการขอวิซ่า และ เอกสารที่เกี่ยวข้องอื่นๆ

.

เบื้องต้น นายจิรสินฯ รับว่าได้นำเอกสารตัวจริงไปสแกน แล้วใช้โปรแกรมตกแต่งภาพ ทำการแก้ไขข้อมูล ตกแต่ง ตัวเลข ทางบัญชีให้รายการเดินบัญชีของลูกค้ามีเงินหมุนเวียนจำนวนมากขึ้น เป็นการสร้างเครดิตความน่าเชื่อถือของผู้ที่จะขอยื่นวีซ่ากับทางสถานทูตต่างๆ แล้วบริษัทฯ ได้นำเอกสารที่แก้ไข ดังกล่าวไปยื่นกับทางสถานทูตผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ยื่นขอวีซ่าสามารถเข้าไปทำงานแบบผิดกฎหมายในต่างประเทศได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ จากการตรวจสอบยังพบว่า มีผู้ยื่นความประสงค์ให้บริษัทดำเนินการลักษณะดังกล่าวแล้วกว่า 100 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งขยายผลเพื่อดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

.

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา ''โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่า ทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ

โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา ถ้าการกระทําความผิดตามวรรคหนึ่ง (1) มิได้กระทําต่อประชาชนแต่เป็นการกระทําต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งผู้กระทําผู้เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ดังกล่าวและ,ใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการกระทำความผิดตามมาตรา 264 มาตรา 265 มาตรา 266 หรือมาตรา 267 ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน'' พร้อมนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

.

#ตำรวจไซเบอร์ #สอท #จับกุม #ปลอมแปลงเอกสาร

#ตำรวจไซเบอร์  #CCIB