ตำรวจไซเบอร์ทลายรังแก๊งโจ๋ยะลา ลวงเป็นแก๊งคอลฯ หลอกชวนลงทุน แสบหนักเปิดกลุ่มรับขายปืนออนไลน์ด้วย
ตำรวจไซเบอร์ทลายรังแก๊งโจ๋ยะลา ลวงเป็นแก๊งคอลฯ หลอกชวนลงทุน แสบหนักเปิดกลุ่มรับขายปืนออนไลน์ด้วย
ตำรวจไซเบอร์ทลายรังแก๊งโจ๋ยะลา ลวงเป็นแก๊งคอลฯ
หลอกชวนลงทุน แสบหนักเปิดกลุ่มรับขายปืนออนไลน์ด้วย
.
วันที่ 11 ธ.ค.67 ที่ สภ.เมืองสงขลา พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร.รรท.ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รรท.ผบก.สอท.3 ,พ.ต.อ.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ รองผบก.สอท.1 พ.ต.อ.คัมภีร์ พรหมสนธิ รอง ผบก.สอท.3 พ.ต.อ.อรุณณพันธ์ วานิช์ชานันท์ ผกก.4 บก.สอท.3 ร่วมกับ สภ. เมืองสงขลา แถลงข่าวยุทธการทลายรังโจร รวบโจ๋เมืองยะลา ปลอมเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์สุ่มเบอร์เหยื่อหลอกลงทุนอ้างผลตอบแทน 1,000 เปอร์เซ็นต์ เหยื่อหลงเชื่อ สูญเงินนับล้านบาท แถมพฤติกรรมสุดแสบต่อยอดเปิดกลุ่มลับขายปืนออนไลน์ พบประวัติมีหมายจับติดตัวคดีทำร้ายร่างกายและพยายามฆ่าอีกหลายหมาย
.
สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายได้มาร้องทุกข์ว่าถูกกลุ่มคนร้ายออกอุบายชักชวนให้ลงทุนในกองทุน โดยอ้างว่าจะได้ผลตอบแทน 1,000 เปอร์เซ็นต์ ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงได้โอนเงินไปร่วมลงทุน 12 ครั้ง สูญเงินจํานวน 784,000 บาท ซึ่งจากการสืบสวนพบว่าทั้งหมดมีความเกี่ยวโยงในการแบ่งหน้าที่กันกระทำความผิด จึงได้สนธิกำลังเข้าจับกุม โดยระหว่างตรวจค้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดอาวุธปืนพร้อมอุปกรณ์ในการผลิตปืนจำนวนมาก
.
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาได้ดังนี้ นายยุทธพล อายุ 21 ปี นายทักษิณ อายุ 23 ปี นายวีรภัทร อายุ 21 ปี นายพงศธร อายุ 27 ปี และ น.ส.กนกวรรณ อายุ 24 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัด อุบลราชธานี ที่
จ.397-402/2567 ลง 6 ธ.ค. ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,สมคบกันโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทําผิดฐาน ฟอกเงินและได้มีการกระทําความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน” และจับกุมนายภัทรภณ อายุ 26 ปี นาย ศุภกฤษณ์ อายุ 22 ปี พร้อมอาวุธปืน 18 กระบอก อุปกรณ์ในการผลิตอาวุธปืน ยาบ้า จํานวน 5 เม็ด ยาไอซ์ น้ําหนักประมาณ 1 กรัม เงินสด 4 หมื่นบาท
แหวนทอง 2 วง รถกระบะ 1 คัน รถยนต์เก๋ง 1 คัน และรถจักรยานยนต์ 3 คัน โดยจับกุมได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา
.
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ แต่จากพยานหลักฐานพบว่าได้ร่วมกันก่อเหตุจริง โดยแบ่งหน้าที่การกระทำความผิด แบ่งเป็นการออกอุบายโทรหลอกผู้เสียหาย ในลักษณะสุ่มเบอร์โทรหาเหยื่อ ก่อนจะชักชวนลงทุน และนำเงินที่ได้จากการหลอกลวง ไปต่อยอดผลิตอาวุธปืน เพื่อขายทางออนไลน์โดยผ่านทางเพจ
“วิหคตอง9” ซึ่งเป็นกลุ่มปิดไว้สำหรับขายปืนออนไลน์ส่งให้กับลูกค้าทั่วประเทศ ในราคา 12,000-20,000 บาท และบางส่วนก็นำไปใช้จ่ายและเสพยาเสพติด
.
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบ พบว่าผู้ต้องหากลุ่มนี้ได้ไปหลอกลวงผู้เสียหายซึ่งได้มีการแจ้งความไว้ในระบบ แจ้งความออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 3 เคสไอดีเป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้านบาท อีกทั้งเมื่อขยายผลพบประวัติของผู้ต้องหาพบว่าผู้ต้องหาส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ จ.ยะลา มีประวัติในคดีพยายามฆ่า ทำร้ายร่างกายในพื้นที่จังหวัดยะลา และสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยหลังจากนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนประสานข้อมูลกับทางตำรวจภูธรภาค 9 ขยายผลตรวจสอบว่าได้มีการส่งอาวุธปืนไปยังพื้นที่ใด และถูกนำไปใช้ก่อเหตุหรือไม่ รวมถึงมีใครอยู่เบื้องหลังในการสั่งการหรือไม่ต่อไป
.
“ตำรวจไซเบอร์พึ่งพาได้ ลดภัยอาชญากรรมออนไลน์ สร้างความอุ่นใจให้ประชาชน”
.
#ตำรวจไซเบอร์ #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #หลอกลงทุน
#ตำรวจไซเบอร์ #CCIB