ตำรวจไซเบอร์แถลงความคืบหน้า กรณีมิจฉาชีพปลอมแปลงบัญชีสร้างเพจปลอม โดยแอบอ้างเป็น “ฮั่วเซ่งเฮง” หลอกลงทุนเทรดหุ้นทอง

.

ตามนโยบาย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดนโยบายในการเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์  มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร. ได้ขับเคลื่อนนโยบายผ่าน พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะผู้รับผิดชอบควบคุมสั่งการ บช.สอท. และ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศปอส.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท. สืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

.

วันที่ 23 ธ.ค.67 เวลา 11.30 น. ณ บริเวณชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ บช.สอท. (เมืองทองธานี) นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท.,พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1, พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผบก.ตอท. และ พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รอง ผบก.สอท.2 รรท. ผบก.สอท.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว แถลงความคืบหน้ากรณี มิจฉาชีพปลอมแปลงบัญชีสร้างเพจปลอม โดยแอบอ้างเป็น “ฮั่วเซ่งเฮง” หลอกลงทุนเทรดหุ้นทอง

.

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.67 พนักงานสอบสวน กก.2 บก.สอท.3 ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบ Case ID : W6711066374 ในระบบรับแจ้งความออนไลน์ WWW.THAIPOLICEONLINE.GO.TH พฤติการณ์กล่าวคือ ถูกหลอกลวงให้ร่วมลงทุน เทรดทองคำ ห้างทอง “ฮั่วเซ่งเฮง” รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 500,000 บาท

ภายใต้การอำนาจการของ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.(สส), พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช./ผอ.ศปอส.ตร. สั่งการให้ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บช.สอท.) นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รรท.ผบก.สอท.3, พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี ผกก.1 บก.สอท.3 และ พ.ต.อ.มรกต แสงสระคู ผกก.2 บก.สอท.3 ให้ตรวจสอบและดำเนินการดังนี้

.

จากกรณีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ บก.สอท.3 ได้เข้าไปตรวจสอบ Case ID ในระบบรับแจ้งความออนไลน์ WWW.THAIPOLICEONLINE.GO.TH พบเหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 พ.ย.67 โดยผู้เสียหายได้พบเห็นโฆษณาในเฟสบุ๊ค เชิญชวนให้ร่วมลงทุน โดยมีข้อความว่า ลงทุนกับห้างทอง “ฮั่วเซ่งเฮง” ได้กำไร 12-35 เปอร์เซ็นต์ โดยใช้ชื่อเพจว่า “HUA SENG HENG (ฮั่วเซ่งเฮง)” จากนั้นผู้เสียหายสนใจ จึงได้ส่งข้อความไป มีการพูดคุยกันจนได้แอดไลน์ไปยัง Line Official ชื่อ “HSH Gold Future” และพูดคุยจนผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินไปลงทุนไปทั้งสิ้น จำนวน 11 ครั้ง เป็นเงิน 511,404.14 บาท

.

เมื่อตรวจสอบข้อมูลบัญชีรับโอนเงินจากเคสไอดีดังกล่าวจำนวน 9 บัญชี พบว่ามีเกี่ยวข้องกับผู้รวบรวมบัญชีคดีหลอก “ชาล็อต” โอนเงิน 4 ล้านบาท และพบความเชื่อมโยงในระบบรับแจ้งความออนไลน์ฯอีกกว่า 30 เคสไอดี มูลค่าความเสียหายกว่า 5.5 ล้านบาท โดยมีพฤติการณ์การหลอกลวงแตกต่างออกไปกว่า 10 รูปแบบ อาทิเช่น หลอกเป็นทนายอาสาหรือเจ้าหน้าที่รัฐที่สามารถตามทรัพย์ที่เสียหายคืนมาได้, คดีคอลเซ็นเตอร์หลอกเป็นหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐข่มขู่ให้เกิดความกลัวแล้วให้โอนเงิน, หลอกเป็นบุคคลที่รู้จักแล้วยืมเงิน เป็นต้น จะเห็นได้ว่า กลุ่มองค์กรอาชญากรรมนี้ไม่ได้มีลักษณะการหลอกที่เฉพาะเจาะจงไปในอย่างใดอย่างหนึ่ง มีแผนประทุษกรรมหลากหลาย ทุกคนมีโอกาสตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางออนไลน์ได้ทั้งหมด

.

เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สอท.3 ทำการตรวจสอบเพิ่มเติม โดยนำคำว่า “ฮั่วเซ่งเฮง” ไปค้นหาในระบบรับแจ้งความออนไลน์ WWW.THAIPOLICEONLINE.GO.TH พบเคสไอดีกว่า 1,220 เคสไอดี และเป็นเคสไอดีที่เกิดหลังประกาศใช้ พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(17 มี.ค.66 - ปัจจุบัน) กว่า 1,044 เคสไอดี มูลค่าความเสียหายกว่า 400 ล้านบาท จึงขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนภัยออนไลน์ให้กับพี่น้องประชาชนที่สนใจการลงทุน ลงทุนน้อยแต่ผลตอบแทนสูงผิดปกติ อ้างให้ลงทุนเพิ่ม ถึงจะเอาเงินออกได้ เพจสร้างมาไม่นาน มีผู้ติดตามน้อย เสี่ยงที่จะโดนหลอก หากต้องการลงทุน ควรตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือองค์กรที่ถูกแอบอ้างก่อน เพื่อจะได้ลงทุนผ่านช่องทางที่แท้จริงและไม่ควรโอนเงินเข้าบัญชีส่วนบุคคล ไม่ว่ากรณีใดๆ ต้องไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน

.

ทั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ยังคงมุ่งเน้นที่จะสนองนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการบังคับใช้กฎหมาย ดำเนินการเชิงรุก ปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิด อย่างจริงจังและต่อเนื่อง มีผลการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชน และการอำนวยความยุติธรรม เพื่อบำบัดทุกข์และบำรุงสุขของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ ตามวิสัยทัศน์ของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ที่ว่า “เป็นตำรวจมืออาชีพ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความ ซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส เพื่อให้เกิดความผาสุกแก่ประชาชน” ทั้งหากประชาชนท่านใดพบเบาะแสในการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายังกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เลขที่ 904 ชั้น 9 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ (รัชกาลที่ 10) ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 หรือ WWW.THAIPOLICEONLINE.GO.TH หรือ สายด่วน 1441

.

#ตำรวจไซเบอร์ #สอท #หลอกลงทุน #ฮั่วเซ่งเฮง

#ตำรวจไซเบอร์  #CCIB