ตำรวจไซเบอร์ตามถึงบ้าน ซ่อนตัว 2 เดือนก็ไม่รอด รวบสาวแสบ บัญชีม้าแก๊งดูดเงินสุรินทร์

ตำรวจไซเบอร์ตามถึงบ้าน ซ่อนตัว 2 เดือนก็ไม่รอด

รวบสาวแสบ บัญชีม้าแก๊งดูดเงินสุรินทร์

.

สืบเนื่องจากตำรวจไซเบอร์ได้เปิดปฏิบัติการ “ล้างบางขบวนการแก๊งดูดเงินสุรินทร์” ที่หลอกลวงให้ผู้เสียหายโดยอ้างว่าเป็นหน่วยงานต่างๆ จนผู้เสียหายหลงเชื่อ แล้วให้กดลิงก์ดาวน์โหลดโปรแกรมควบคุมโทรศัพท์ แล้วโอนเงินออกจากบัญชีของผู้เสียหายจนหมดบัญชี ซึ่งจากการสืบสวนขยายผล พบมีความเชื่อมโยงหลายคดี ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ มีความเสียหายรวมกันกว่า 12 ล้านบาท

.

เมื่อวิเคราะห์เส้นทางการเงินในคดีที่เชื่อมโยงกันพบว่า เงินที่หลอกลวงผู้เสียหายถูกโอนต่อกันมาเป็นทอดๆ แล้วกดเงินออกในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ และยังพบว่ามีเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารที่ใช้ในการกระทำความผิดรวมกันในรอบ 9 เดือน มีจำนวนถึง 30 ล้านบาท ซึ่งได้ออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 26 ราย และจับกุมผู้ต้องหาไปแล้ว 11 ราย นั้น

.

พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.สรกฤช พันธศรี ผกก.3 บก.สอท.3 จับกุมผู้ต้องหาในขบวนการดังกล่าวให้หมดสิ้น เพื่อมิให้ไปเกิดความเสียหายแก่ประชาชน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนทราบว่า น.ส.ปริฉัตรฯ หนึ่งในผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ที่ถนนอินทราวาส แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ซึ่ง น.ส.ปริฉัตรฯ ทราบว่าตนเองมีหมายจับ จึงไม่เคยออกจากบ้านพักดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายค้นบ้านดังกล่าวตามหมายค้นศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ ค.29/2567 ลง 19 กุมภาพันธ์ 2567

.

ต่อมาเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจค้นบ้านดังกล่าว พบ น.ส.ปริฉัตรฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 4256/2566 ลง 18 พฤศจิกายน 2566 ซึ่ง น.ส.ปริฉัตรฯ รับว่าตนเองเป็นบุคคลตามหมายจับจริงและกลัวว่าจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม จึงได้หลบอยู่ในบ้านดังกล่าวมาตลอดโดยไม่ได้ออกไปไหน มาประมาณ 2 เดือนแล้ว จึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนในความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์โดยลวงเป็นเจ้าพนักงาน, ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน,ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และสมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน” ต่อไป

.

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลไปถึงนายหน้าผู้รวบรวมบัญชีม้าในคดีดังกล่าว เพื่อให้การป้องกันปราบปรามขบวนการดังกล่าวให้เป็นไปด้วยความรวดเร็วและเด็ดขาด มิให้สามารถนำบัญชีม้าไปใช้ในการกระทำความผิดต่อไปได้อีก พร้อมทั้งได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงโทษในการเปิดบัญชีอีกด้วย

.

ผลการปฏิบัติภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3, พ.ต.อ.สรกฤช พันธ์ศรี ผกก.3 บก.สอท.3 สั่งการให้ชุดสืบสวนดำเนินการจับกุม

.

#ตำรวจไซเบอร์ #สอท #จับกุม #แอปดูดเงิน

#ตำรวจไซเบอร์  #CCIB