ตำรวจไซเบอร์จับบัญชีม้าแก๊งหลอกเทรดทองคำ สร้างภาพโปรไฟล์ดี กำไรสูงเกือบ 40%

ตำรวจไซเบอร์จับบัญชีม้าแก๊งหลอกเทรดทองคำ

สร้างภาพโปรไฟล์ดี กำไรสูงเกือบ 40%

.

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) กำชับให้ตำรวจไซเบอร์สืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่หลอกลวงประชาชนเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 สั่งการให้ พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี ผกก.1 บก.สอท.3 นำกำลังติดตามจับกุมผู้ต้องหาขบวนการหลอกชักชวนเทรดทองคำ อ้างผลตอบแทนสูง ซึ่งมีประชาชนหลงเชื่อ สูญเงินจำนวนมาก

.

ล่าสุด วันที่ 19 ก.พ.67 พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี ผกก.1 บก.สอท.3 สั่งการตำรวจไซเบอร์ บก.สอท.3 จับกุมนายสุทธิพงษ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น กระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่คอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” โดยจับกุมได้ที่หน้าบ้านพักในพื้นที่หมู่ที่ 5 ต.โป่งแพร่ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย

.

สืบเนื่องจากประมาณเดือนมิถุนายน 2566 นางศิรารัตน์ ผู้เสียหาย เข้าใช้งานแอปพลิเคชันติ๊กต็อก พบบุคคลซึ่งใช้แอปพลิเคชันติ๊กต็อกชื่อว่า “Bank” ได้โพสต์ข้อความโฆษณาชักชวนให้ร่วมลงทุนเทรดทองคำ มีผลตอบแทนสูง “ลงทุนเทรดทอง 100,000 บาท จะได้กำไร 18,000 บาท, โปรโมชั่น วีไอพี ลงทุน 500,000 บาท จะได้กำไร 188,000 บาท ชำระครบรับโบนัสพิเศษ 58,000 บาท” ผู้เสียหายจึงกดเข้าไปดูโปรไฟล์ผู้ใช้ติ๊กต็อก ดังกล่าว ปรากฏว่ามีจำนวนผู้ติดตามจำนวนมากและเปิดเป็นสาธารณะ ผู้เสียหายจึงได้กดติดตาม

.

หลังจากนั้นคนร้ายได้ทักข้อความมาหาชักชวนลงทุนเทรดทองคำ และให้ผู้เสียหายเพิ่มเพื่อนทางไลน์ จากนั้นคนร้ายได้ชักชวนทดลองเทรดทองคำในระบบซึ่งเป็นระบบที่คนร้ายสร้างขึ้นมาหลอกลวง สร้างความน่าเชื่อถือโดยผลการเทรดได้กำไรดี จากนั้นคนร้ายได้ชักชวนให้ผู้เสียหายทำการเทรดทองด้วยตัวเอง โดยส่งลิงก์สำหรับการเทรดไปให้ติดตั้งในเครื่องโทรศัพท์ แล้วกรอกข้อมูลส่วนตัวลงในลิงก์ จากนั้นเมื่อผู้เสียหายกรอกข้อมูลเสร็จ ได้โอนเงินเข้าระบบเพื่อทำการเทรดทองคำ เข้าบัญชีชื่อ “นายนันทชัย” ซึ่งช่วงแรกได้กำไรและถอนเงินได้จริง จึงได้โอนเงินเพิ่มเติมอีก 3 ครั้ง เข้าบัญชีชื่อ “นายสุทธิพงษ์” รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 470,000 บาท แต่ไม่สามารถถอนเงินดังกล่าวได้ จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวร

.

ต่อมาตำรวจไซเบอร์ บก.สอท.3 สืบสวนทราบว่า นายสุทธิพงษ์ หนึ่งในผู้ต้องหาบัญชีม้า อยู่ในพื้นที่ ต.โป่งแพร่ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย จึงได้ประสานตำรวจ บก.สอท.4 , สถานีตำรวจทางหลวง 5 กองกำกับการ 5 , สภ.แม่ลาว จ.เชียงราย และฝ่ายปกครอง อ.แม่ลาว นำกำลังร่วมจับกุม นายสุทธิพงษ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่า ตนมีอาชีพขับรถกระบะรับส่งคนงานจัดสวน ซึ่งเพื่อนคนงานจัดสวนเป็นคนต่างด้าวให้เปิดบัญชีธนาคารให้ เพื่อจะให้แฟนเพื่อนโอนเงินมาจากประเทศเกาหลี เนื่องจากเพื่อนเปิดบัญชีเองไม่ได้ จึงได้เปิดบัญชีให้เพื่อนไป ปัจจุบันเพื่อนคนดังกล่าวได้หลบหนีออกจากงานไปแล้ว ชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.สอท.3 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะได้ติดตามจับกุมบัญชีม้าที่หลบหนีอีกราย รวมทั้งขยายผลถึง ผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดมาดำเนินคดีโดยเร็ว

.

ทั้งนี้ หากประชาชนเป็นผู้เสียหายสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือสามารถแจ้งความออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th

.

#ตำรวจไซเบอร์ #สอท #จับกุม #หลอกเทรดทอง

#ตำรวจไซเบอร์  #CCIB