ตำรวจไซเบอร์ค้นบ้านนักสะสมปืนออนไลน์ ของกลางอาวุธปืน 10 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก
ตำรวจไซเบอร์ค้นบ้านนักสะสมปืนออนไลน์ ของกลางอาวุธปืน 10 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก
ตำรวจไซเบอร์ค้นบ้านนักสะสมปืนออนไลน์
ของกลางอาวุธปืน 10 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก
.
วันจันทร์ที่ 25 มี.ค.67 เวลา 13.30 น. ณ อาคารสัมมนาและฝึกอบรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (เมืองทองธานี)
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) นำโดย นายสุทธิเกียรติ วีระกิจพานิช ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นางสาววงศ์อะเคื้อ บุญศล โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฝ่ายการเมือง,
นายอาชวิน อยู่บำรุง คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกองบัญชาการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) นำโดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท.,
พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2, พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3, และ พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวปฏิบัติการ “Cyber Chase” กรณี “ตำรวจไซเบอร์ค้นบ้านนักสะสมปืนออนไลน์ ของกลางอาวุธปืน 10 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก”
.
สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 (บก.สอท.2) โดย พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2 และ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ ผกก.4 บก.สอท.2 ให้ดำเนินการเร่งรัดสืบสวนปราบปราม เพื่อจับกุม กรณีมีการลักลอบซื้อ-ขายอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ผ่านสื่อสังคมออนไลน์อย่างจริงจัง ตามข้อมูลที่ได้รับการประสานจากศูนย์ต่อต้านอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 โดยทันที ซึ่งเป็นการป้องกันอาชญากรรมร้ายแรงก่อนการเกิดเหตุ โดยในห้วงเดือน มีนาคม 2567 มีผลการระดมกวาดล้างจับกุม ผู้ต้องหา จำนวน 4 ราย ตรวจยึดของกลาง อาวุธปืนจำนวน 19 กระบอก กระสุนปืนจำนวน 468 นัด และกระสุนปืนที่บรรจุอยู่ในกล่องน้ำหนักประมาณ 15.8 กิโลกรัม
.
สำหรับคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สอท.2 ได้ทำการสืบสวนหาข่าวเกี่ยวกับการซื้อขายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนผ่านช่องออนไลน์จนพบว่ามีการลักลอบจำหน่ายอาวุธปืน ประเภทปืนไทยประดิษฐ์ดัดแปลง (แบลงค์กัน) และเครื่องกระสุนปืน ผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์จำนวนมาก รวมถึงทางแอปพลิเคชัน YOUTUBE ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้ทำการสืบสวนหาตัวคนร้าย จนทราบว่ามีการใช้บัญชีสมาชิกกลุ่ม LINE กลุ่มลับในการซื้อขาย อาวุธปืนและกระสุนปืนซึ่งมีจำนวนสมาชิกในกลุ่ม LINE ดังกล่าวหลายร้อยคนและพบว่าสามารถสั่งซื้ออาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนได้จริง จากการสืบสวนพบว่ามีความเชื่อมโยงกับผู้ต้องสงสัยหลายราย จึงได้สืบสวนขยายผล จับกุมเครือข่ายผู้กระทำผิดมาอย่างต่อเนื่อง
.
ต่อมา วันที่ 20 มี.ค.67 เวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สอท.2 ได้เข้าทำการตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ที่ 10 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ตามหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ 156/2567 ลงวันที่ 19 มี.ค.67 พบ นายธีรยุทธ (ขอสงวนนามสกุล) แสดงตัวเป็นเจ้าบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเพื่อเข้าทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบของกลาง จำนวน 17 รายการ ได้แก่
.
1.อาวุธปืนพกสั้น (ลูกโม่) จำนวน 1 กระบอก บรรจุกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 6 นัด
2.อาวุธปืนยาวอัดลมแบบประดิษฐ์เอง ลำกล้องยาวประมาณ 72 ซม. จำนวน 1 กระบอก
3.อาวุธปืนยาวอัดลมแบบประดิษฐ์เอง ลำกล้องยาวประมาณ 53 ซม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมกล้องเล็ง (ใช้กับกระสุนปืนตะกั่วแบบหัวร่ม)
4.อาวุธปืนยาวอัดลมแบบประดิษฐ์เอง ลำกล้องยาวประมาณ 47 ซม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมกล้องเล็ง(ใช้กับกระสุนปืนตะกั่วแบบหัวร่ม)
5.อาวุธปืนยาวอัดลมแบบประดิษฐ์เอง ลำกล้องยาวประมาณ 55 ซม. จำนวน 1 กระบอก (ใช้กับกระสุนปืนตะกั่วแบบหัวร่ม)
6.อาวุธปืนยาวอัดลม ลำกล้องยาวประมาณ 23 ซม. จำนวน 1 กระบอกพร้อมกล้องเล็ง (ใช้กับกระสุนปืนตะกั่วแบบหัวร่ม)
7.อาวุธปืนยาวอัดลม ยี่ห้อ COSMAN ลำกล้องยาวประมาณ 49 ซม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมกล้องเล็ง (ใช้กับกระสุนปืนตะกั่วแบบหัวร่ม)
8.อาวุธปืนสั้นอัดลม ยี่ห้อ COSMAN ลำกล้องยาวประมาณ 25 ซม. จำนวน 1 กระบอก (ใช้กับกระสุนปืนตะกั่วแบบหัวร่ม)
9.อาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก โดยมีกระสุนปืนขนาด .45 จำนวน 7 นัด บรรจุอยู่ในแม็กกาซีน
10.อาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ ลำกล้องยาวประมาณ 9 ซม. จำนวน 1 กระบอก
11.กระสุนปืนขนาด .45 จำนวน 47 นัด
12.กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 7 นัด
13.กระสุนปืนตะกั่วแบบหัวร่ม น้ำหนักรวมภาชนะบรรจุประมาณ 750 กรัม
14.กระสุนปืนตะกั่วแบบหัวร่มบรรจุอยู่ในกระปุกพลาสติก จำนวน 10 กระปุก น้ำหนักรวมภาชนะบรรจุประมาณ 5 กิโลกรัม
15.กระสุนปืนตะกั่วแบบหัวร่มบรรจุอยู่ในถุงซิบล็อกแบบรูดเปิดกดปิด จำนวน 6 ถุง น้ำหนักรวมถุงบรรจุประมาณ 1.7 กิโลกรัม
16.กระสุนปืนตะกั่วแบบหัวร่มบรรจุอยู่ในกระปุกอลูมิเนียม จำนวน 13 กระปุก น้ำหนักรวมภาชนะบรรจุประมาณ 4.2 กิโลกรัม
17.กระสุนปืนแบบลูกปืนจักรยาน บรรจุอยู่ในกระปุกโหลพลาสติก จำนวน 1 กระปุก น้ำหนักรวมภาชนะบรรจุ ประมาณ 4.2 กิโลกรัม
.
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุม นายธีรยุทธ แจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐาน “มีอาวุธปืน (ไม่มีทะเบียน) และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
.
จากการตรวจค้นจับกุม พบข้อมูลที่น่าสนใจว่า สาเหตุผู้ต้องหาสั่งซื้ออาวุธปืนและกระสุนปืน ให้การว่าตนเองเป็นคนชอบสะสมปืน โดยอาวุธปืนและกระสุนปืนของกลางบางส่วน ตนได้ติดต่อชื้อขายผ่านทางออนไลน์ โดยอาวุธปืนสั้นไม่มีทะเบียนซื้อมาในราคากระบอกละ 10,000 – 12,000 บาท ส่วนอาวุธปืนแบลงค์กัน (ปืนดัดแปลง) ชื้อมาในราคา 4,000 -5,000 บาท และได้เริ่มทยอยสะสมมาตั้งแต่เมื่อปี 2562- 2563 เนื่องจากสามารถสั่งซื้ออาวุธปืนและกระสุนปืนทางออนไลน์ได้ง่าย ซึ่งเป็นที่น่ากังวลว่าอาจนำไปก่อเหตุอาชญากรรมที่ร้ายแรงตามมาได้ โดยในส่วนของตำรวจไซเบอร์ได้สืบสวนทางช่องทางออนไลน์ จนนำมาสู่การตรวจค้นจับกุม และมีการรวบรวมเป้าหมายซึ่งได้จากการขยายผลการจับกุมการซื้อขายอาวุธปืนออนไลน์ ส่งมอบให้ตำรวจพื้นที่ทั่วประเทศ ดำเนินการจับกุมตรวจค้นมาแล้ว กว่า 1,000 เป้าหมาย ซึ่งเป็นการดำเนินการเชิงรุก เพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรมร้ายแรงก่อนการเกิดเหตุ
.
#ตำรวจไซเบอร์ #สอท #จับกุม #ปืนเถื่อน #ปืนออนไลน์
#ตำรวจไซเบอร์ #CCIB