สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดประชุมครั้งสำคัญ ตำรวจไทย-กัมพูชา ผบ.ตร. 2 ประเทศจับมือลุยปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์จริงจัง 60 วันต้องเห็นผล
สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดประชุมครั้งสำคัญ ตำรวจไทย-กัมพูชา
ผบ.ตร. 2 ประเทศจับมือลุยปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์จริงจัง 60 วันต้องเห็นผล
.
สืบเนื่องจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับนโยบายปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจัง เนื่องจากได้หลอกลวงคนไทยและสร้างความเสียหายเป็นจำนวนเงินมหาศาล โดยจากข้อมูลพบว่า ส่วนใหญ่อาชญากรเหล่านี้มักมีฐานปฏิบัติการอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านติดชายแดนประเทศไทย จึงได้หารือเป็นการส่วนตัวกับ สมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนต นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา ทำให้ทราบว่าทั้ง 2 ประเทศมีความเห็นตรงกัน จึงนำมาสู่การตกลงร่วมมือกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างเด็ดขาดและเป็นรูปธรรมภายใน 60 วัน
.
ต่อมานายกรัฐมนตรี จึงได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาในประเด็นดังกล่าว จนนำมาสู่การประชุมครั้งสำคัญระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา ในการสรุปแนวทางความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาและสำนักงานตำรวจแห่งชาติเข้าร่วมประชุม
.
วันพฤหัสบดีที่ 25 ก.ค.67 เวลา 10.00 น. นำโดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. ปฏิบัติราชการ บช.สอท., และ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี, กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน, สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกองการต่างประเทศ ที่มีพื้นที่รับผิดชอบบริเวณแนวตะเข็บชายแดนประเทศไทยกัมพูชา ได้เข้าร่วมประชุมสรุปแนวทางความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อปราบปรามอาชญากรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมี พล.ต.อ.ซอ เทต ผบ.ตร.กัมพูชา และผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาเข้าร่วมประชุมผ่านระบบประชุมทางไกลผ่านจอภาพ (Zoom) ณ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชั้น 20 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
.
สำหรับประเด็นการประชุมในครั้งนี้ ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติไทยและกัมพูชา ได้หารือกันถึงทิศทางและรูปแบบการทำงานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงสภาพปัญหาในการสืบสวนสอบสวนคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่มีผู้ต้องหากบดานอยู่ในพื้นที่ประเทศกัมพูชา โดย สำนักงานตำรวจแห่งชาติไทยและกัมพูชา ได้ตกลงร่วมมือกันเร่งรัดปราบปรามเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามทั้งสองประเทศอย่างจริงจัง ในส่วนความร่วมมือที่ทางสำนักงานตำรวจไทยร้องขอประกอบด้วย 3 ประเด็น ได้แก่
1) ขอให้จับกุมคนไทยทุกคนที่มีหมายจับและมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แล้วส่งตัวกลับมาประเทศไทยเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
2) ขอให้เข้าตรวจค้นเพื่อกวาดล้างจับกุมเป้าหมาย ที่มีข้อมูลจากการสืบสวนว่าเป็นสถานที่ดำเนินการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และช่วยผลักดันคนไทยที่อยู่ในสถานที่ดังกล่าวกลับมายังประเทศไทย
3) ขอให้สืบสวนสอบสวนและดำเนินคดีกับชาวต่างชาติที่เป็นนายทุนของแก๊งคอลเซ็นเตอร์
.
อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกในการหารือของทั้ง 2 ประเทศ โดยเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.67พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. เป็นผู้แทนเข้าพบนายเชิดเกียรติ อัตถากร เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ /ผู้ช่วยทูตฝ่ายตำรวจ ทหารบก ทหารเรือ และทหารอากาศ เพื่อมอบหนังสือแจ้งข้อมูลการกระทำความผิดในประเทศกัมพูชาและร่วมประชุมหารือการเตรียมความพร้อมในการดำเนินงานร่วมกันมาแล้ว
.
ต่อมาเมื่อ 14 มิ.ย.67 พล.ต.ท.เจียร์โป รอง ผบ.ตร.กัมพูชา ได้นำคณะเข้าร่วมประชุมกับคณะผู้แทนจาก บช.สอท. ด้วยตนเอง ในการหารือแนวทางการทำงานร่วมกัน ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ซึ่งครั้งนั้น บช.สอท. ได้มอบข้อมูลสำคัญที่ใช้ในการสืบสวนการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้แก่ตำรวจกัมพูชาอีกด้วย
.
ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ก.ค.67 ทาง บช.สอท. ได้มีการรับตัวผู้ต้องหาชาวไทยมาจากประเทศกัมพูชา จำนวน 2 ราย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่มีหมายจับในประเทศไทยและเกี่ยวข้องกับแก็งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศกัมพูชา ปัจจุบันตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลเพื่อจับกุม ซึ่งคาดว่าจะมีผลการปฏิบัติร่วมกันได้เร็วๆนี้
.
นอกจากนี้ ทางสำนักงานตำรวจแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ยังแสดงความตั้งใจจริงในการดำเนินการเร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศร่วมกัน ได้ตกลงในการสืบสวนและประสานความร่วมมือกันโดยทั้ง 2 ประเทศเห็นชอบในเรื่องการส่งตัวประชาชนและผู้ต้องหากลับประเทศ และที่สำคัญ ได้แต่งตั้งคณะทำงานร่วมกันอย่างเป็นทางการและมีแผนจัดประชุมเชิงลึกร่วมกันในครั้งต่อไป ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ประชาชนในภูมิภาค ภายใต้อธิปไตยของทั้ง 2 ประเทศต่อไป
.
#ตำรวจไซเบอร์ #สำนักงานตำรวจแห่งชาติ #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #กัมพูชา
#ตำรวจไซเบอร์ #CCIB