แถลงข่าว ปฏิบัติการ “cyber sweep” ตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการทลายแก๊งปลอมเพจแม่ตั๊ก ใช้ของฟรีล่อเหยื่อโอนเงิน พร้อมรวบ 2 ผู้ต้องหาหลอกขายซิมเน็ตรายปี
แถลงข่าว ปฏิบัติการ “cyber sweep” ตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการทลายแก๊งปลอมเพจแม่ตั๊ก ใช้ของฟรีล่อเหยื่อโอนเงิน พร้อมรวบ 2 ผู้ต้องหาหลอกขายซิมเน็ตรายปี
แถลงข่าว ปฏิบัติการ “cyber sweep”
ตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการทลายแก๊งปลอมเพจแม่ตั๊ก ใช้ของฟรีล่อเหยื่อโอนเงิน
พร้อมรวบ 2 ผู้ต้องหาหลอกขายซิมเน็ตรายปี
ตามนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร รรท.ผบ.ตร. ได้ให้ความสำคัญและเร่งรัดให้ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะการกระทำผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน
ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียบนโลกออนไลน์ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนเป็นวงกว้าง
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ได้ปฏิบัติการอย่างเข้มข้นมาโดยตลอดและขยายผลเพื่อจับกุมให้ได้ทั้งขบวนการ
.
วันศุกร์ที่ 14 มิ.ย.67 เวลา 13.30 น. ณ อาคารกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 ชั้น 3 (เมืองทองธานี) นำโดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2 พล.ต.ต.จิตติพล ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ปฏิบัติการทลายแก๊งปลอมเพจแม่ตั๊ก ใช้ของฟรีล่อเหยื่อโอนเงิน พร้อมรวบ 2 ผู้ต้องหาหลอกขายซิมเน็ตรายปี
.
สืบเนื่องจากตำรวจไซเบอร์ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากผู้เสียหายจำนวนหลายรายผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ www.thaipoliceonline.go.th เกี่ยวกับเพจเฟซบุ๊กหลอกลวงประชาชน กรณีแอบอ้าง “แม่ตั๊ก” แม่ค้าออนไลน์ชื่อดังแล้วหลอกขายผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมทั้งทองคำ และ เพจหลอกขายซิมโทรศัพท์มือถืออินเตอร์เน็ตรายปี พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงได้สั่งการให้ทำการสืบสวนสอบสวนเพื่อจับกุมบุคคล
ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
.
พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2 , จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.จักรกฤช ศรีโรจนากูร ผกก.2 บก.สอท.2 ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนจนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอกหมายคนหมายจับผู้เกี่ยวข้องได้ ทั้ง 2 ขบวนการ จนนำมาสู่การปิดล้อมตรวจค้นจำนวน 2 ปฏิบัติการ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
.
ปฏิบัติการที่ 1 สืบเนื่องจากกรณีที่ น.ส.กรกนก ฯ หรือ “แม่ตั๊ก” แม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง ซึ่งมีจำนวนผู้ติดตามในเพจเฟซบุ๊กกว่า 4.5 ล้านราย ได้รับความเสียหายจากกลุ่มมิจฉาชีพที่เปิดบัญชีเพจปลอมเลียนแบบเพจของตน โดยมีการนำชื่อ ภาพถ่าย และวิดีโอ ของ น.ส.กรกนกฯ ไปใช้ลงโพสต์โฆษณาเพื่อหลอกลวงผู้อื่นว่ามีการแจกรางวัล เช่น เงินสด ทองคำ หรือ สิ่งของอื่นๆ ที่มีมูลค่าสูง ทำให้ประชาชนที่หลงเชื่อเข้าใจว่าจะได้รับเงิน
หรือสิ่งของต่างๆ จากตนจริง จากนั้นมิจฉาชีพจะแจ้งให้เหยื่อโอนเงินเพื่อยืนยันการรับของรางวัล ซึ่งปรากฎว่ามีประชาชนหลงเชื่อโอนเงินไปให้กลุ่มมิจฉาชีพหลายราย และไม่ได้รับเงินสด หรือของรางวัลตามที่กล่าวอ้างจริง อีกทั้ง ยังทำให้ น.ส.กรกนกฯ ได้รับความเสียหายด้านชื่อเสียง ทั้งมีเหยื่อบางรายโพสต์แสดงความเกลียดชัง เพราะผู้เสียหายบางคนเข้าใจว่ามิจฉาชีพที่หลอกลวงคือ น.ส.กรกนก จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อตำรวจ
ไซเบอร์เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้จนถึงที่สุด
.
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.2 ได้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เกี่ยวกับผู้ใช้เพจเฟซบุ๊กปลอมดังกล่าว จนสามารถพิสูจน์ทราบถึงเส้นทางการเงินของขบวนการดังกล่าวได้ นำไปสู่การออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายค้นต่อศาลจังหวัดเชียงราย และได้สนธิกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเช่าหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ผลการตรวจค้น สามารถจับกุมตัวนายเอกชัยฯ อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ จ.505/2567 ลงวันที่ 10 มิ.ย. 67
.
จากพยานหลักฐาน พบว่าบุคคลดังกล่าวเป็นผู้ต้องหาสำคัญและถือว่าเป็นผู้รับผลประโยชน์จากการหลอกลวงผู้เสียหาย เบื้องต้น นายเอกชัยฯ ให้การว่า ตนทำหน้าที่เป็นผู้กดเงินสดออกจากบัญชีม้าของธนาคารต่างๆ ซึ่งป็นเงินที่ได้รับเงินโอนต่อจากผู้เสียหายเป็นทอดๆ แล้วนำส่งให้หัวหน้าของตน ที่อยู่ในขบวนการแก๊ง
คอลเซ็นเตอร์ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งนายเอกชัยฯ มีรายได้เฉลี่ยจำนวน 200,000 บาท ต่อเดือน ทั้งนี้
จากการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ตรวจยึดเงินสดจำนวน 400,000 บาท (เป็นเงินที่ถูกถอนออกมาเตรียมนำส่งหัวหน้า) พร้อมทั้งยึด โทรศัพท์มือถือ จำนวน 5 เครื่อง สมุดบัญชีจำนวน 5 เล่ม บัตรกดเงินสด(บัตรATM) จำนวน 9 ใบ นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจยึด อุปกรณ์คอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ต่อพ่วง จำนวน 67 ชิ้น ซึ่งนายเอกชัยฯ ได้ซื้อไว้เพื่อเตรียมนำไปใช้งาน ณ ที่ทำการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน
.
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ,ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด” พร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน
กก.2 บก.สอท.2 เพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
.
ปฏิบัติการที่ 2 สืบเนื่องจากตำรวจไซเบอร์ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากประชาชนผ่านเว็บไซต์รับแจ้งความออนไลน์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ www.thaipoliceonline.go.th ว่ามีเฟซบุ๊กแฟนเพจชื่อบัญชี “TreeMobile
ซิมเทพเน็ต-รายปี” ได้โพสต์ประกาศโฆษณาขายซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือแบบผูกโปรโมชันรายปี โดยเสนอจำหน่ายในราคาถูก ให้แก่ประชาชนทั่วไป ต่อมาได้มีประชาชนหลงเชื่อติดต่อสั่งซื้อซิมการ์ดดังกล่าวหลายราย แต่เมื่อโอนเงินสั่งซื้อแล้ว กลับไม่ได้รับสินค้าจากเพจดังกล่าวแต่อย่างใด และยังไม่สามารถกับติดต่อกับเพจดังกล่าวได้อีกเลย จึงทำให้เชื่อได้ว่าตนถูกหลอกมาตั้งแต่ต้น
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สืบสวนสอบสวนพร้อมรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งเส้นทางการเงิน
เพื่อขออำนาจศาลจังหวัดธัญบุรี ออกหมายค้น และหมายจับผู้เกี่ยวข้อง จำนวน 3 ราย กระทั่งเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมายและสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 2 ราย คือ น.ส.จิราพรฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี ที่434/2567 ลงวันที่ 10 มิถุนายน 2567 และ นายบัญญัติฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี ที่435/2567 ลงวันที่ 10 มิถุนายน 2567 พร้อมด้วยของกลาง โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง และเครื่องคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค จำนวน 2 เครื่อง และบัตรกดเงินสดที่ได้ใช้ในการกระทำความผิด
.
เบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย อ้างว่าได้รับการว่าจ้างจากหญิงสาวสัญชาติเมียนมาร์รายหนึ่ง ให้มาถอนเงินที่
ถูกโอนเข้ามาในบัญชีของตน แล้วนำส่งให้สาวพม่ารายนั้น แต่ตนไม่ทราบว่าเป็นเงินมาจากอะไร แต่เบื้องต้น เจ้าหน้ายังไม่ปักใจเชื่อคำกล่าวอ้างดังกล่าว
.
เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัว น.ส.จิราพรฯ และ นายบัญญัติฯ พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” พร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.สอท.2 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
.
#ตำรวจไซเบอร์ #เพจแม่ตั๊ก #ขายซิมเน็ต #แจ้งความออนไลน์
#ตำรวจไซเบอร์ #CCIB