ตำรวจไซเบอร์รวบเครือข่ายหลอกกู้เงินออนไลน์ ลวงโอนเงินปลดล๊อกบัญชี สุดท้ายสูญเงินกว่า 2 แสน
ตำรวจไซเบอร์รวบเครือข่ายหลอกกู้เงินออนไลน์ ลวงโอนเงินปลดล๊อกบัญชี สุดท้ายสูญเงินกว่า 2 แสน
ตำรวจไซเบอร์รวบเครือข่ายหลอกกู้เงินออนไลน์
ลวงโอนเงินปลดล๊อกบัญชี สุดท้ายสูญเงินกว่า 2 แสน
สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565 มีผู้เสียหายเป็นนักศึกษาพยาบาลสาวรายหนึ่ง ได้เปิดแอปเฟซบุ๊กพบโฆษณาเงินกู้ออนไลน์ จึงได้ลองเปิดลิงก์ดังกล่าวเข้าไป และได้กรอกข้อมูลส่วนตัวลงแบบฟอร์มผ่านลิงก์ดังกล่าว ต่อมาผู้เสียหายได้รับข้อความแจ้งว่าได้ทำสัญญาเงินกู้กับทางบริษัทเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงให้ผู้เสียหายติดต่อกับบริษัทผ่านทางแอปไลน์
.
จากนั้นทางบริษัทได้อ้างว่าผู้เสียหายกรอกหมายเลขบัญชีธนาคารไม่ถูกต้อง จึงต้องโอนเงินให้ทางบริษัทจำนวน 12,500 บาท เพื่อทำการปลดล็อกบัญชี เมื่อปลดล็อคแล้วทางบริษัทจะโอนเงินคืนให้แก่ผู้เสียหาย
ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินยอดดังกล่าวไป แต่ต่อมาทางบริษัทแจ้งกับผู้เสียหายว่าไม่สามารถปลดล็อคบัญชีได้ จึงได้หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเพิ่มอีก 4 ครั้ง ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไปรวมกว่า 2 แสนบาท จนสุดท้ายตนเองไม่มีเงินโอนให้ทางบริษัทดังกล่าวแล้ว จึงมารู้ตัวว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอกลวง สุดท้ายจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.2 บก.สอท.4 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
.
ต่อมา พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จิตติพล ผลพฤกษา ผบก.สอท.4
ส่งเจ้าหน้าที่ออกสืบสวนกรณีดังกล่าว จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องได้หลายราย กระทั่ง พ.ต.ท.พร้อมพล นิตย์วิบูลย์ สว.กก.2 บก.สอท.4 ได้นำกำลังเข้าจับกุมตัว น.ส.เนตรนภา อายุ 39 ปี ชาวเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2480/2567 ลงวันที่
28 พ.ค.67 ได้บริเวณถนนสาธารณะ ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ม. 13 ต.หนองไขว่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ควบคุมตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
.
#ตำรวจไซเบอร์ #หลอกกู้เงินออนไลน์ #บัญชีธนาคาร #นักศึกษาพยาบาล
#ตำรวจไซเบอร์ #CCIB