ตำรวจไซเบอร์บุกค้น 6 จุดกลางกรุง ทลายเครือข่ายอ้างคนดังหลอกวัยเกษียณลงทุน รวบผู้ต้องหากว่า 30 ราย ยึดของกลางเพียบ
ตำรวจไซเบอร์บุกค้น 6 จุดกลางกรุง ทลายเครือข่ายอ้างคนดังหลอกวัยเกษียณลงทุน รวบผู้ต้องหากว่า 30 ราย ยึดของกลางเพียบ
ตำรวจไซเบอร์บุกค้น 6 จุดกลางกรุง ทลายเครือข่ายอ้างคนดังหลอกวัยเกษียณลงทุน รวบผู้ต้องหากว่า 30 ราย ยึดของกลางเพียบ
.
ตามนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. ได้ให้ความสำคัญในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการกระทำผิดในรูปแบบขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ได้สร้างความเสียหายต่อประชาชนเป็นมูลค่ามหาศาล โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒนน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดทั่วประเทศเร่งดำเนินการ
จึงได้ปฏิบัติการอย่างเข้มข้นมาโดยตลอด พร้อมทั้งขยายผลเพื่อจับกุมผู้กระทำผิดให้ได้จนถึงตัวการ
.
เมื่อวันศุกร์ที่ 28 มิ.ย.67 เวลา 10.00 น. ณ อาคารสัมมนาและฝึกอบรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (เมืองทองธานี)นำโดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1,
พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2, พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3, พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 และ พ.ต.อ.บัญชา ศรีสุข รอง ผบก.สอท.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ปฏิบัติการ DAY HUNTER กรณีตำรวจไซเบอร์บุกค้น 6 จุดกลางกรุง เครือข่ายอ้างคนดังหลอกวัยเกษียณลงทุนรวบผู้ต้องหากว่า 30 ราย ยึดของกลางเพียบ
.
สืบเนื่องจาก บก.สอท.3 ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายซึ่งเป็นกลุ่มผู้สูงอายุหลายราย ว่าได้ถูกคนร้ายหลอกให้ลงทุนผ่านแอปพลิเคชันชื่อ “PENFOLD” และผ่านแอปพลิเคชันชื่อ “IBTM” จากการตรวจสอบข้อมูลในระบบรับแจ้งความออนไลน์ พบว่ามีคดีลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นแล้วประมาณ 40 เคสไอดี รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 200 ล้านบาท
.
โดยพฤติการณ์ของคนร้าย มักสร้างเฟซบุ๊กปลอมแอบอ้างผู้มีชื่อเสียงด้านการลงทุน เช่น อาจารย์คเชน เบญจกุล, ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล เป็นต้น หรือ ใช้วิธีการแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มเฟซบุ๊กจริงที่เกี่ยวกับการลงทุน จากนั้นคนร้ายจะติดต่อเหยื่อเพื่อแนะนำหรือชักชวนให้เหยื่อลงทุนกับคนร้าย หากเหยื่อหลงเชื่อ คนร้ายจะให้เหยื่อแอดไลน์ส่วนตัวเพื่อสอนวิธีการเทรดหุ้น โดยคนร้ายสร้างตัวตนในไลน์ว่าเป็นผู้ช่วยด้านการลงทุน จากนั้นให้เหยื่อดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชันที่เกี่ยวกับการลงทุนซึ่งคนร้ายได้สร้างปลอมขึ้นมา แล้วหลอกให้เหยื่อโอนเงินมาลงทุนเป็นระยะ จำนวนหลายครั้ง หากเหยื่อต้องการถอนเงิน คนร้ายจะอ้างเหตุผลต่างๆ เพื่อให้เหยื่อโอนเงินเพิ่มก่อนถึงจะถอนเงินได้ แต่ท้ายที่สุด ก็ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้จริง
.
ต่อมา พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์ฯครบัญชา ผบช.สอท. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 และ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 ส่งทีมเจ้าหน้าที่ออกสืบสวนสอบสวน โดยได้สั่งการให้
ว่าที่ พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3, พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี ผกก.1 บก.สอท.3, พ.ต.อ.คมสันต์ กันหา ผกก.4 บก.สอท.1 และ พ.ต.อ.กฤติน ตปสีโล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 นำกำลังออกร่วมปฏิบัติการ จนสามารถสืบสวนเส้นทางการเงินพร้อมรวบรวมพยานหลักฐานนำไปสู่การขออำนาจศาลออกหมายจับกลุ่มคนร้ายได้จำนวน 66 หมายจับ และได้ขอหมายค้นต่อศาลเพื่อทำการตรวจค้นเป้าหมายได้สำเร็จ
.
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ได้ระดมกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย จำนวน 6 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้จำนวน 30 ราย ทั้งกลุ่มแอดมิน ผู้จัดหาบัญชีม้า รวมทั้งบัญชีม้า
โดยมีผู้ต้องหาสำคัญคือ น.ส.ปานชีวันฯ อายุ 33 ปี และ น.ส.ชานิภาฯ อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นบุคคลใกล้ชิดกับชาวจีนระดับหัวหน้าขององค์กร โดยทั้ง 2 คนทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาบัญชีม้าและจัดหาคนเข้ามาทำงานในองค์กร โดยวิธีการประกาศรับสมัครงานผ่านทางเฟซบุ๊ก นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ตรวจยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 14 เครื่อง โทรศัพท์ จำนวน 6 เครื่อง เอกสารการรับสมัครงาน สมุดบัญชีธนาคาร เอกสารสคริปต์บทสนทนาของคนร้ายที่เตรียมไว้สำหรับหลอกเหยื่อ และเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดอีกหลายรายการ
.
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, เป็นอั้งยี่, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, สมคบกันโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้พบกัน, และร่วมกันฟอกเงิน” นำตัวผู้ต้องหาและของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป พร้อมนำเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้จากการตรวจค้น ส่งตรวจพิสูจน์เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม และเร่งขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติมต่อไป
.
#ตำรวจไซเบอร์ #จับกุม #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #หลอกลงทุน
#ตำรวจไซเบอร์ #CCIB