รวบหนุ่มบัญชีม้า ความเสียหายหลักแสน

ใจดีให้เพื่อนยืมบัญชี หนีไม่พ้นตำรวจไซเบอร์

.

ตามนโยบายรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ให้ความสำคัญกับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 สั่งการให้ พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผกก.2 บก.สอท.4 เร่งรัดจับกุมขบวนการหลอกขายสินค้าออนไลน์ เพื่อลดความเดือดร้อนให้กับประชาชนจากการสูญเสียทรัพย์สินและตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

.

สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมาก ได้รับความเดือดร้อนจากบัญชีเฟซบุ๊ก ชื่อ “JK Shop” มีพฤติกรรมในการโพสต์ขายสินค้าต่างๆ และทางแอดมินได้แจ้งกับทางผู้สั่งซื้อว่าต้องทำการโอนเงินก่อน แล้วจะทำการส่งสินค้าให้ เมื่อผู้ซื้อหลงเชื่อ ได้ทำการโอนเงินชำระค่าสินค้าไป ทางแอดมินเฟซบุ๊กก็จะบล็อก เพื่อไม่ให้ผู้สั่งซื้อสามารถติดต่อได้อีก และไม่ได้ส่งสินค้าให้กับผู้ที่สั่งซื้อแต่อย่างใด จากการตรวจสอบความเชื่อมโยงในฐานข้อมูล ได้มีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนในหลายท้องที่ รวมมูลค่าความเสียหายนับแสนบาท

.

ต่อมาวันที่ 17 กันยายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.4 นำโดย พ.ต.ท.พร้อมพล นิตย์วิบูลย์ สว.กก.2 บก.สอท.4 ได้สืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาตามหมายจับได้มาหลบซ่อนอยู่ที่ ต.ห้วยโป่ง อ.เมืองระยอง จ.ระยอง จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และวางแผนจับกุม จนกระทั่งสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาดังกล่าวได้ คือ นายจักรพันธ์ ชาวอำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลหนึ่งบุคคลใด” ตามหมายจับศาลแขวงนครปฐม ที่ จ.207/2565 ลงวันที่ 29 ธันวาคม 2565 และความผิดฐาน “ฉ้อโกง ,โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง” ตามหมายจับศาลจังหวัดแพร่ ที่ จ.45/2566 ลงวันที่ 27 มกราคม 2566 นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

.

จากการสอบถาม นายจักรพันธ์ให้การว่าตนเองรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง เนื่องจากเมื่อประมาณต้นปี 2565 ได้มีเพื่อนสนิทของตนเอง มาขอยืมบัญชีธนาคารและบัตร ATM อ้างว่าจะเอาไปใช้เล่นพนันออนไลน์ ตนเองเห็นว่าเป็นเพื่อนสนิท จึงไว้วางใจให้ยืมบัญชีธนาคารและบัตร ATM ของตนเอง แต่เมื่อประมาณกลางปี 2565 ตนเองได้รับการโทรศัพท์จากผู้เสียหายหลายรายแจ้งว่าได้โอนเงินค่าสินค้าให้มายังบัญชีธนาคารของตนและไม่ได้รับสินค้าที่สั่งซื้อ และตนเองยังได้รับหมายเรียกของเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหลายหมาย จึงได้ทำการติดต่อไปถามเพื่อนที่ได้มายืมบัญชีธนาคารและบัตร ATM ของตนเองแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ตนเองไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป ประกอบกับเกรงกลัวความผิด จึงได้มาหลบซ่อนตัวอยู่บ้านเพื่อนสนิทบ้าง บ้านญาติของตนเองบ้าง จนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.4 จับกุม

.

#ตำรวจไซเบอร์ #สอท #หลอกขายของออนไลน์ #หลอกขายสินค้าออนไลน์

#ตำรวจไซเบอร์  #CCIB