ตำรวจไซเบอร์บุกค้น 2 จุด สงขลา รวบแอดมินกลุ่มพนันไก่ชนและวัวชนออนไลน์ พร้อมตามรวบเครือข่ายบัญชีม้า
ตำรวจไซเบอร์บุกค้น 2 จุด สงขลา รวบแอดมินกลุ่มพนันไก่ชนและวัวชนออนไลน์ พร้อมตามรวบเครือข่ายบัญชีม้า
ตำรวจไซเบอร์บุกค้น 2 จุด สงขลา รวบแอดมินกลุ่มพนันไก่ชนและวัวชนออนไลน์ พร้อมตามรวบเครือข่ายบัญชีม้า
.
สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดเร่งปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนนำมาสู่ผลการปฏิบัติดังนี้
.
1. จับกุมเครือข่ายการพนันออนไลน์ จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 2 ราย
- ตรวจค้น 2 จุด ในสงขลา รวบแอดมินกลุ่มพนันไก่ชนและวัวชนออนไลน์ จำนวน 2 ราย
.
2. จับกุมเครือข่ายหลอกลวงออนไลน์ จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 4 ราย
- รวบเครือข่ายอ้างเป็นหมอหลอกเทรดทองคำ เสียหายกว่า 4 แสน จำนวน 1 ราย
- รวบเครือข่ายหลอกลงทุนแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เสียหายกว่า 4 แสน จำนวน 2 ราย
- รวบเครือข่ายอ้างกรมที่ดิน หลอกกดลิงก์ติดตั้งแอปดูดเงิน เสียหาย 2.2 ล้าน จำนวน 1 ราย
.
จับกุมเครือข่ายการพนันออนไลน์
.
ปฏิบัติการที่ 1 : กก.3 บก.สอท.5 บุกค้น 2 จุด สงขลา รวบแอดมินกลุ่มพนันไก่ชนและวัวชนออนไลน์
.
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สายตรวจไซเบอร์ของ กก.3 บก.สอท.5 ได้ลาดตระเวนบนสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อเฝ้าติดตามผู้กระทำความผิดในสื่อสังคมออนไลน์ ต่อมาพบเบาะแสการกระทำผิด จนนำไปสู่แอปพลิเคชันไลน์
ชื่อกลุ่ม “กลุ่มไก่ชน นเรศวร 98” และ “กลุ่มวัวชนเจ้าเสน่ห์” ภายในกลุ่มมีข้อมูลการจัดเล่นการพนันไก่ชน และวัวชนออนไลน์ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลออกหมายค้นเป้าหมาย จำนวน 2 จุด ดังนี้
.
จุดที่ 1 บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ที่ 10 ซ.การะเกด ถ.กาญจนวนิช ต.เขารูปช้าง อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา
พ.ต.ท.ร่มไทร ไทรงาม และ พ.ต.ต.สุนทร คงกุล สว.กก.3 บก.สอท.5 ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.5 พร้อมหมายค้น ศาลแขวงสงขลา ที่ 33/2568 ลงวันที่ 17 เม.ย.68 เข้าตรวจค้น เมื่อไปถึงบ้านหลังดังกล่าว
พบ นายกิตติภณ อายุ 28 ปี เป็นผู้อาศัยและเช่าบ้านหลังดังกล่าว ตรวจค้นพบของกลางเป็น โทรศัพท์มือถือ iPhone 7, คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ และ คอมพิวเตอร์แบบพกพา(โน๊ตบุ๊ก) จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
เมื่อตรวจสอบข้อมูลภายในโทรศัพท์มือถือ พบข้อมูลหลักฐานว่า นายกิตติภณ เป็นแอดมินกลุ่ม “กลุ่มไก่ชน นเรศวร 98” ทำหน้าที่ถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาไก่ชนจากสนามเพื่อให้ลูกค้าออนไลน์ได้รับชม คอยตอบแชทดูแลปัญหา และดูแลระบบฝาก-ถอนเงินสำหรับการแทงพนันให้แก่กลุ่มไก่ชนออนไลน์ดังกล่าว
.
จากการสอบถามผู้ต้องหา ยอมรับสารภาพว่า ตนเองเป็นแอดมินกลุ่ม และทำหน้าที่ดังกล่าวตามหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหา “จัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันโดยไม่ได้รับอนุญาต ผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ” นำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย และเร่งสืบสวนเชิงลึกเพิ่มเติมเพื่อขยายผลจับกุมผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไป
.
จุดที่ 2 บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ที่ 6 ต.ทำนบ อ.สิงหนคร จ.สงขลา
พ.ต.ต.ธีรวัฒน์ สมศิริ สว.กก.3 บก.สอท.5 ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.5 พร้อมหมายค้น ศาลแขวงสงขลา ที่ 32/2568 ลงวันที่ 17 เม.ย.68 เข้าตรวจค้น สามารถจับกุมตัว นายกฤตเมธ หรือ ดอน อายุ 27 ปี พร้อมของกลางได้แก่ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก จำนวน 1 เครื่อง และ โทรศัพท์มือถือจำนวน 3 เครื่อง
.
เมื่อตรวจสอบข้อมูลภายในโทรศัพท์มือถือ พบข้อมูลหลักฐานว่า นายกฤตเมธ เป็นแอดมินกลุ่มวัวชนออนไลน์ ทำหน้าที่แอดมินดูแลเรื่องราคา อัตราต่อรองราคา และถ่ายทอดสดภาพกีฬาวัวชนจากสนามเพื่อให้ลูกค้าวัวชนออนไลน์ในกลุ่มรับชม และสรุปยอดเงินการเดิมพันพนันของผู้เล่นแต่ละราย ให้แก่กลุ่มวัวชนออนไลน์ดังกล่าว
.
จากการสอบถามผู้ต้องหา ยอมรับสารภาพว่า ตนเองเป็นแอดมินกลุ่ม และทำหน้าที่ดังกล่าวตามหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหา “จัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันโดยไม่ได้รับอนุญาต ผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ” นำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย และเร่งสืบสวนเชิงลึกเพิ่มเติมเพื่อขยายผลจับกุมผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไป
.
จับกุมเครือข่ายหลอกลวงออนไลน์
.
ปฏิบัติการที่ 2 : กก.1 บก.สอท.1 รวบเครือข่ายอ้างเป็นหมอหลอกเทรดทองคำ เสียหายกว่า 4 แสน
.
สืบเนื่องจากผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากบัญชีเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ใช้ภาพโปรไฟล์เป็นผู้ชายหน้าตาดี ได้ส่งข้อความมาหาอ้างว่าตนประกอบอาชีพเป็นหมอ อยู่ใน กทม. จากนั้นได้พูดคัยกันจนเกิดความสนิทสนมแล้วชักชวนให้ผู้เสียหายลงทุนเทรดทองคำ ผ่านทางแพลตฟอร์มชื่อ ST5 PRO สุดท้ายผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปหลายครั้ง รวมจำนวน 416,774 บบาท
.
หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ต้องหาในขบวนการ ได้ร่วมกันจับกุม นายสุรวิทย์ อายุ 26 ปี ตามหมายจับของศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.490/2568 ลง 26 มี.ค.68 ในข้อหา “เป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดง ตนเป็นผู้อื่น, ร่วมกันโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นและเปิดหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้หรือยืมใช้หมายเลขโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์ เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรจะรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด”
.
เบื้องต้นเจ้าตัวให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ยอมรับว่าเคยเปิดบัญชีธนาคารให้บุคคลอื่นนำไปใช้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
.
ปฏิบัติการที่ 3 : กก.1 บก.สอท.5 รวบเครือข่ายหลอกลงทุนแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เสียหายกว่า 4 แสน
.
สืบเนื่องจากผู้เสียหายได้ถูกคนร้ายชักชวนให้ลงทุนแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศผ่านเว็บไซต์ โดยคนร้ายชักชวนให้ลงทุนซื้อขายทองคำในเว็ปข้างต้นผ่านการแชทไลน์ที่ใช้รูปผู้หญิงเป็นภาพโปรไฟล์ โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินสกุลบาทไปยังบัญชีม้าที่คนร้ายใช้ โดยอ้างว่าใช้ไปแลกเป็นเงินดอลล่าร์เพื่อทำการลงทุนในเว็บไซต์ ผู้เสียหายจังโอนเงินไป จำนวน 3 ครั้ง มูลค่าความเสียหายเกือบ 400,000 บาท
.
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุม ผู้ต้องหาในเครือข่ายได้ จำนวน 2 ราย ได้แก่ นายสุกฤษฏิ์ อายุ 37 ปี ตามหมายจับ ศาลอาญา ที่ 633/2568 ลง 31 มี.ค.68 โดยจับกุมได้หน้าห้องพัก ในซอยสุขสรรค์ 1/1 ถ.ศักดิเดช หมู่ 9 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต นำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
.
และจับกุม นายสมพร อายุ 42 ปี ตามหมายจับ ศาลอาญา ที่ 632/2568 ลงวันที่ 31 ม.ค.68 โดยจับกุมหน้าห้องพักในพื้นที่ หมู่ 1 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต
.
จึงแจ้งข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น,ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน" นำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
.
ปฏิบัติการที่ 4 : กก.1 บก.สอท.5 รวบเครือข่ายอ้างกรมที่ดิน หลอกกดลิงก์ติดตั้งแอปดูดเงิน เสียหาย 2.2 ล้าน
สืบเนื่องจากผู้เสียหาย ได้ถูกกลุ่มคนร้ายได้โทรศัพท์หาโดยอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมที่ดิน แล้วแจ้งกับผู้เสียหายว่า กรมที่ดินจะทำการผ่อนผันภาษีเกี่ยวกับที่ดินที่ผู้เสียหายครอบครองอยู่ให้ ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงได้
ส่งลิงก์เพื่อหลอกให้กดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันปลอม แล้วให้ผู้เสียหายโอนเงินค่าภาษีที่ดิน จำนวน 10 บาท ไปยังบัญชีปลายทาง จากนั้น มิจฉาชีพหลอกให้กดรหัสพร้อมทั้งสแกนใบหน้าของผู้เสียหายเพื่อยืนยันตัวตน โดยคนร้ายได้ติดต่อกับผู้เสียหายอยู่เป็นเวลา 40 นาที สุดท้ายพบว่ายอดเงินในบัญชีของผู้เสียหายถูกโอนออกไปหลายครั้ง
เป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน 2,270,907 บาท
.
หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับผู้ต้องหาในเครือข่ายได้หลายราย ล่าสุด สามารถจับกุม นางสาวบุษยา อายุ 24 ปี ตามหมายจับ ศาลจังหวัดนครราชสีมา ที่ จ.389/2567 ลงวันที่ 21 ส.ค.67 ในข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น,ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน" โดยจับกุมตัวได้บนขบวนรถไฟ ขบวนรถท้องถิ่น ที่ 416 (รด.-รส.) ขณะจอดที่สถานีรถไฟนครราชสีมา ต.ในเมืองอ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา นำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
.
#ตำรวจไซเบอร์ #CyberPolice #พนันออนไลน์ #บัญชีม้า #แอปดูดเงิน #กรมที่ดิน
#ตำรวจไซเบอร์ #CCIB