ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มนครฯ โพสต์ปล่อยกู้เงินออนไลน์ ค้นบ้านเจอหลักฐานหวยใต้ดิน พร้อมเดินหน้าปราบโจรออนไลน์
ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มนครฯ โพสต์ปล่อยกู้เงินออนไลน์ ค้นบ้านเจอหลักฐานหวยใต้ดิน พร้อมเดินหน้าปราบโจรออนไลน์
ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มนครฯ โพสต์ปล่อยกู้เงินออนไลน์ ค้นบ้านเจอหลักฐานหวยใต้ดิน
พร้อมเดินหน้าปราบโจรออนไลน์
.
วันพฤหัสบดีที่ 10 เม.ย.68 เวลา 13.30 น. ณ บริเวณชั้น 1 บก.สอท.2 นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ
ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตร์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1, พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 และ พล.ต.ต.ศุภกร ผิวอ่อน ผบก.สอท.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มนครฯ โพสต์ปล่อยกู้เงินออนไลน์ ค้นบ้านเจอหลักฐานหวยใต้ดิน พร้อมเดินหน้าปราบโจรออนไลน์
.
สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดเร่งปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนนำมาสู่ผลการปฏิบัติดังนี้
.
1. จับกุมเครือข่ายการพนันออนไลน์ (หวยใต้ดิน) จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 1 ราย
- รวบหนุ่มนครฯ โพสต์ปล่อยกู้เงินออนไลน์ ค้นบ้านเจอหลักฐานหวยใต้ดิน
.
2. จับกุมเครือข่ายหลอกลวงออนไลน์ จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 4 ราย
- เครือข่ายหลอกดู TikTok แล้วได้เงิน เสียหายกว่า 7.5 หมื่นบาท จำนวน 1 ราย
- เครือข่ายปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ข่มขู่โอนเงินให้ตรวจสอบ เสียหายกว่า 1.1 ล้านบาท จำนวน 1 ราย
- เครือข่ายปลอมโปรไฟล์เฟซบุ๊กหน้าตาดี ชักชวนลงทุน เสียหายกว่า 4 แสนบาท จำนวน 1 ราย
- เครือข่ายหลอกขายของออนไลน์แล้วไม่ส่งของ เสียหายกว่า 2 หมื่นบาท จำนวน 1 ราย
.
จับกุมเครือข่ายการพนันออนไลน์ (หวยใต้ดิน)
.
ปฏิบัติการที่ 1 : กก.3 บก.สอท.5 รวบหนุ่มนครฯ โพสต์ปล่อยกู้เงินออนไลน์ ค้นบ้านเจอหลักฐานหวยใต้ดิน
.
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพบผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อบัญชี “Aod Promkeaw” ได้โพสต์ข้อความโฆษณาปล่อยกู้เงิน และยังพบพฤติกรรมการโพสต์รูปภาพเพื่อโฆษณาให้ประชาชนร่วมเล่นพนัน หวยใต้ดิน
จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายค้นเป้าหมายได้สำเร็จ
.
ต่อมา ช่วงบ่ายของวันที่ 8 เม.ย.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายค้นศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ 60/2568 ลงวันที่
8 เม.ย.68 เข้าตรวจค้น บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ถ.ทุ่งสง-นครศรีธรรมราช ต.ปากแพรก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช พบ นายทรงเกียรติ อายุ 38 ปี เป็นเจ้าของบ้าน
.
จากการตรวจค้นตรวจสอบเอกสาร นายทรงเกียรติ ฯ ได้นำเอกสารทะเบียนพาณิชย์และเอกสารการประกอบธุรกิจสินเชื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตรวจสอบแล้วถูกต้อง จากนั้นได้นำการตรวจค้นบริเวณห้องหลังบ้านหลังดังกล่าว พบของกลางเป็นคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ของนายทรงเกียรติ จำนวน 1 เครื่อง ตรวจสอบข้อมูลภายใน พบหลักฐานเป็นการรวบรวบหวยจากลูกค้าแล้วส่งต่อไปยังเจ้ามือหวย และพบสมุดบัญชีสีน้ำเงินสำหรับจดหวย จำนวน 1 เล่ม โดยจากหลักฐาน ทราบว่า เจ้ามือหวยเป็นเจ้าแม่เงินกู้และเป็นเจ้ามือหวยรายใหญ่ในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล
.
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหา “จัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนัน (หวยออนไลน์) ในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานหรือรับอนุญาตแล้วแต่เล่นพลิกแพลง หรือผู้ใดเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นอันขัดต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ หรือกฎกระทรวง หรือข้อความในใบอนุญาตฯ เบื้องต้นเจ้าตัวรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
.
จับกุมเครือข่ายหลอกลวงออนไลน์
.
ปฏิบัติการที่ 2 : กก.1 บก.สอท.1 รวบเครือข่ายหลอกดู TikTok แล้วได้เงิน สุดท้ายสูญเงินกว่า 7.5 หมื่นบาท
.
สืบเนื่องจากผู้เสียหายต้องการหารายได้เสริมพิเศษ จึงได้ค้นหาข้อมูลผ่าน google search ต่อมาได้พบ
ลิงก์ประกาศรับสมัครงานจึงได้กดเข้าไปสู่บัญชีไลน์ จากการสอบถาม ทำให้ทราบว่า เป็นงานกดไลก์คลิป TikTok แล้วได้รับเงินค่าคอมมิชชั่นจำนวน 30 บาท โดยต้องโอนเงินเข้าไปเพื่อลงทุนก่อนเพื่อรอรับผลตอบแทน สุดท้ายผู้เสียหายโอนเงินไปมากขึ้น รวมทั้งสิ้น 75,000 บาท
.
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ต้องหาได้หลายราย โดยล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายจับศาลอาญา ที่ 5786/2567 ลง 29 พ.ย.67 เข้าจับกุม นายกรรนึก อายุ 24 ปี ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน” นำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
ปฏิบัติการที่ 3 : กก.3 บก.สอท.1 รวบเครือข่ายปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ขู่โอนเงินให้ตรวจสอบกว่า 1.1 ล้าน
.
สืบเนื่องจากผู้เสียหายได้มีคนร้ายแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่โทรศัพท์มาหลอกว่า ผู้เสียหายเป็นผู้ต้องสงสัย
คดีฟอกเงินและค้ายาเสพติด โดยให้ผู้เสียหายรับเป็นเพื่อนทางไลน์ เพื่อสนทนาต่อ จากนั้นใช้กลอุบายข่มขู่
จนผู้เสียหายกลัว แล้วถูกข่มขู่ให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีตามที่คนร้ายแจ้งเพื่อทำการตรวจสอบ โดยอ้างว่า
จะโอนคืนให้ในภายหลัง ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของคนร้าย จำนวน 1,170,182.45 บาท สุดท้าย ไม่ได้รับเงินคืนแต่อย่างใด
.
หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับผู้ต้องหาในเครือข่ายได้หลายราย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายจับศาลอาญา ที่ 1721/2568 ลงวันที่ 12 มี.ค.68 เข้าจับกุม น.ส.นิศากร อายุ 41 ปี ในข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันโดยทุจริตหรือ โดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน" เบื้องต้นเจ้าตัวปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
.
ปฏิบัติการที่ 4 : กก.1 บก.สอท.5 รวบเครือข่ายปลอมโปรไฟล์เฟซบุ๊กหน้าตาดี ลวงลงทุนกว่า 4 แสน
.
สืบเนื่องจากผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากมิจฉาชีพที่ใช้โปรไฟล์หน้าตาดีผ่านแอปพลิเคชัน facebook ต่อมาคนร้ายได้สร้างความสัมพันธ์ ตีสนิทจนเกิดความไว้ใจ และเปลี่ยนมาสนทนากันผ่านแอปพลิเคชันไลน์ โดยมิจฉาชีพอ้างเป็นอาจารย์ที่มีความรู้เรื่องการลงทุน และชักชวนให้ลงทุนผ่านแอปพลิเคชันชื่อ FP matket ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินเพื่อสุดท้ายไม่สามารถถอนเงินออกมาไม่ได้ เสียหายกว่า 400,000 บาท
.
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ต้องหาได้หลายราย กระทั่งชุดจับกุม สืบสวนทราบว่า นายนวคุณ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาซึ่งเป็น 1 ในบัญชีม้าของกรณีดังกล่าว ได้ปรากฏตัวอยู่ในพื้นที่ หมู่ 7 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงได้นำกำลังเข้าจับกุมตามหมายจับ ศาลจังหวัดนนทบุรี ที่
อ.477/2568 ลง 24 มี.ค.68 ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น,ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน,ร่วมกัน
ฟอกเงิน” เบื้องต้นผู้ต้องหาปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงควบคุมตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
.
ปฏิบัติการที่ 5 : กก.3 บก.สอท.5 รวบเครือข่ายหลอกขายของออนไลน์แล้วไม่ส่งของ เสียหายกว่า 2 หมื่นบาท
.
สืบเนื่องผู้เสียหายได้ติดต่อซื้อของออนไลน์กับเพจเฟซบุ๊กบัญชีหนึ่ง เมื่อโอนเงินไปกว่า 2 หมื่นบาท ปรากฎว่าไม่ได้รับสินค้าแต่อย่างใด ต่อมา พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับกลุ่มผู้กระทำผิด กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุม นางสาวสุภาณี อายุ 26 ปี บัญชีม้าในขบวนการดังกล่าว ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 529/2568 ลงวันที่ 25 ม.ค.68 ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
.
เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าเป็นเพื่อนของตนเองได้ขอยืมบัญชีธนาคารไปตั้งแต่สมัยเรียน ปวช. เมื่อประมาณ 6 ปีที่แล้ว เพื่อจะนำไปให้ญาติโอนเงินค่าเทอมมาให้ แต่มาทราบภายหลังถูกจับกุมว่าบัญชีธนาคารของตนเองถูกนำมาเป็นบัญชีม้าให้ขบวนการมิจฉาชีพนี้
.
#ตำรวจไซเบอร์ #CyberPolice #หลอลงทุน #หลอกลวงออนไลน์ #เงินกู้นอกระบบ
#ตำรวจไซเบอร์ #CCIB