MONEY CASH BACK ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน EP.28-30
MONEY CASH BACK ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน EP.28-30
“MONEY CASH BACK ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน EP.28-30”
ตำรวจไซเบอร์ช่วยเหยื่อโจรออนไลน์ชาวปักษ์ใต้ โดนหลอกรวมกันสูญกว่า 30 ล้าน อายัดทัน 1.2 ล้าน นำคืนผู้เสียหาย 3 ราย
.
วันจันทร์ที่ 18 ส.ค.68 เวลา 10.00 น. ณ ห้องไทรเงิน โรงแรมกระบี่รีสอร์ท ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. และ พล.ต.ต.ศุภกร ผิวอ่อน ผบก.สอท.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว “MONEY CASH BACK ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน EP.28-30” ตำรวจไซเบอร์ช่วยเหยื่อโจรออนไลน์ชาวปักษ์ใต้ โดนหลอกรวมกันสูญกว่า 30 ล้าน อายัดทัน 1.2 ล้าน นำคืนผู้เสียหาย 3 ราย
.
สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดดำเนินการตามโครงการ “MONEY Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน” โดยก่อนหน้านี้ สามารถจับกุมเครือข่ายบัญชีม้าของขบวนการหลอกลวงออนไลน์ และสามารถติดตามนำคืนให้แก่ผู้เสียหายตามขั้นตอนในโครงการ “MONEY CASH BACK” ไปแล้วหลายครั้ง รวมจำนวนเงินกว่า 231 ล้านบาท โดยล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์สามารถติดตามเงินของผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงให้โอนเงินเพิ่มเติมได้อีก จำนวน 5 ราย มีรายละเอียดดังนี้
.
กรณีที่ 1 ผู้เสียหายเป็นหญิงชาวภูเก็ตรายหนึ่ง ได้ถูกชักชวนจากเพื่อนที่เพิ่งรู้จักกันบนเฟซบุ๊ก ชักชวนให้หารายได้พิเศษ เป็นการกดเพิ่มสินค้าให้เว็บไซต์ โดยต้องโอนเงินไปสํารองก่อนจึงจะได้รับค่าตอบแทน ต่อมาได้ถูกหลอกให้โอนเงินเพิ่มเรื่อยๆ รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมด 220,260.27 บาท
.
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สอท.5 สามารถจับกุมตัวบัญชีม้าในขบวนการดังกล่าวได้ พร้อมประสานธนาคารเพื่อขออายัดเงินที่ถูกหลอกลวงไว้ได้ จำนวน 70,449.27 บาท โดยผู้ต้องหาไม่โต้แย้งในกรรมสิทธิ์ และยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งมอบเงินในบัญชีตามจำนวนดังกล่าวคืนให้แก่ผู้เสียหาย
.
กรณีที่ 2 ผู้เสียหายรายหนึ่งเป็นหญิงวัย 57 ปี ชาว อ.เกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี โดยเริ่มต้นผู้เสียหายถูกหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินไปประมาณ 5 ล้านบาท ต่อมา ผู้เสียหายได้พบเพจเฟซบุ๊กปลอมที่แอบอ้างเป็นตำรวจไซเบอร์ โดยอ้างว่าสามารถดึงเงินจากคนร้ายที่หลอกลวงผู้เสียหายกลับคืนมาได้ ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อ จึงได้ทำตามขั้นตอนต่างๆ ที่คนร้ายแนะนำ พร้อมกับโอนเงินไปยังบัญชีคนร้ายเพิ่มอีกหลายครั้ง รวมเป็นเงินประมาณ 25 ล้านบาท รวมแล้วผู้เสียหายโดนหลอกลวงเงินไปทั้งสิ้นกว่า 30 ล้านบาท
.
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.5 สามารถจับกุมตัวบัญชีม้าในขบวนการดังกล่าวได้ พร้อมประสานธนาคารเพื่อขออายัดเงินที่ถูกหลอกลวงไว้ได้ จำนวน 1 ล้านบาท โดยผู้ต้องหาไม่โต้แย้งในกรรมสิทธิ์ และยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งมอบเงินในบัญชีตามจำนวนดังกล่าวคืนให้แก่ผู้เสียหาย
.
กรณีที่ 3 ผู้เสียหายรายหนึ่งเป็นหญิงชาว จ.พัทลุง ได้รับสายโทรศัพท์จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างว่าเป็นการไฟฟ้า อ้างว่าจะเปลี่ยนมิเตอร์ไฟให้เป็นแบบดิจิทัล เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ คนร้ายจึงแนะนำให้ทำตามขั้นตอนที่แจ้ง เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่าเงินถูกโอนออกจากบัญชีผู้เสียหาย จำนวน 1,951,230 บาท
.
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สอท.5 สามารถจับกุมตัวบัญชีม้าในขบวนการดังกล่าวได้ พร้อมประสานธนาคาร เพื่อขออายัดเงินที่ถูกหลอกลวงไว้ได้ จำนวน 210,074 บาท โดยผู้ต้องหาไม่โต้แย้งในกรรมสิทธิ์ และยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งมอบเงินในบัญชีตามจำนวนดังกล่าวคืนให้แก่ผู้เสียหาย
.
โดยวันนี้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดติดตามคดี จึงได้ร่วมกันนำเงิน จำนวน 1,280,523.27 บาท คืนให้แก่ผู้เสียหายทั้ง 3 ราย ตามโครงการ “MONEY Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน”
.
#ตำรวจไซเบอร์ #CCIB