ตำรวจไซเบอร์สายลับรวบ 2 หนุ่มขอนแก่นขายปืนออนไลน์ ขยายผลพบลอบเปิดรับจำนำดอกร้อยละ 120 ต่อปี
ตำรวจไซเบอร์สายลับรวบ 2 หนุ่มขอนแก่นขายปืนออนไลน์ ขยายผลพบลอบเปิดรับจำนำดอกร้อยละ 120 ต่อปี
ตำรวจไซเบอร์สายลับรวบ 2 หนุ่มขอนแก่นขายปืนออนไลน์ ขยายผลพบลอบเปิดรับจำนำดอกร้อยละ 120 ต่อปี
.
วันพุธที่ 6 ส.ค.68 เวลา 11.00 น. ณ บริเวณชั้น 1 บก.สอท.2 (เมืองทองธานี) นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1, พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 และ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ตำรวจไซเบอร์สายลับรวบ 2 หนุ่มอีสาน ขายปืนออนไลน์ ขยายผลพบลอบเปิดรับจำนำดอกร้อยละ 120 ต่อปี
.
สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดเร่งปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.3 จึงได้แฝงตัวเข้าในกลุ่มไลน์เกี่ยวกับการซื้อขายอาวุธปืนผิดกฎหมาย เมื่อตรวจสอบพบจึงได้พยายามติดต่อล่อซื้อปืนจากสมาชิก
ในกลุ่มดังกล่าว จนสามารถติดต่อได้ จำนวน 2 ราย
.
รายที่ 1 เป็นชายไทยรายหนึ่ง ได้เสนอว่าหากสนใจ สามารถนำปืนมาให้ตรวจเช็กของก่อนได้ แล้วจะขายให้ในราคาถูก ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.3 ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ปพ.บก.สส.ภ.4 เพื่อร่วมวางแผนเข้าจับกุม โดยได้ขอซื้ออาวุธปืนและตกลงขายให้ในราคา 24,000 บาท จากนั้นได้แจ้งให้ชายดังกล่าวนำอาวุธปืนมาให้ตรวจสอบ โดยนัดหมายกันบริเวณลานจอดรถริมถนน บริเวณหลังตลาดบ้านม่วง ต.บ้านทุ่ม อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้วางกำลังซุ่มรอบริเวณดังกล่าว
.
เมื่อถึงเวลานัดหมาย พบนายทินกฤต หรือ คม อายุ 42 ปี (ทราบชื่อภายหลัง) ได้ขับรถยนต์กระบะ 4 ประตู สีดำเข้ามาจอดที่บริเวณจุดนัดหมาย แล้วได้โทรศัพท์แจ้งให้สายลับไปพบที่รถยนต์เพื่อตรวจสอบอาวุธปืน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสายลับตรวจสอบแล้ว พบว่าเป็นอาวุธปืนจริง จึงได้แสดงตัวพร้อมส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม
ที่วางกำลังซุ่มดูอยู่แสดงตัวเข้าจับกุม
.
จากการตรวจค้นพบของกลาง ได้แก่
1.อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ ลูเกอร์ (พาราเบลลัม) ขนาด 9 มม. สีดำ จำนวน 1 กระบอก (ของกลางที่ล่อซื้อ)
2.อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ ซิกซาวเออร์ (P320SP) (สีดำ-ทราย) จำนวน 1 กระบอก (อาวุธปืน ที่นายทินกฤตพกมา ซึ่งมีใบอนุญาตพกพาอาวุธปืน)
.
เบื้องต้น ผู้ต้องหายอมรับว่า อาวุธปืนของกลางดังกล่าวเป็นของตนจริงโดยซื้อมาจากชายไทยไม่ทราบชื่อและที่อยู่ที่เคยรู้จักกันทางโซเชียลมีเดีย แต่ตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว
.
จึงแจ้งข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
.
รายที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.3 ได้ติดต่อขอซื้ออาวุธปืนจากชายรายหนึ่งในกลุ่มดังกล่าว จำนวน 1 กระบอก ในราคา 30,000 บาท แล้วนัดหมายให้มาส่งมอบอาวุธปืนที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง สาขา ต.ท่าพระ อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น เมื่อชายดังกล่าวเดินทางมาถึงจุดนัดหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น ทราบชื่อ นายศุภชัย หรือ เล็ก อายุ 39 พร้อมตรวจยึดของกลาง ดังนี้
.
1.ปืน Smith & Wesson .38 Special CTG จำนวน 1 กระบอก
2.เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 41 นัด
3.กระสุน ขนาด .357 จำนวน 6 นัด
4.กระสุน ขนาด .38 จำนวน 1 นัด
.
จากนั้น ชุดจับกุมได้พบหลักฐานว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์ลักลอบรับจำนำทรัพย์สิน จึงได้สืบสวนขยายผลไปตรวจค้นยังบ้านพักของผู้ต้องหา กระทั่งพบของกลางอีกกว่า 20 รายการ อาทิ
- อาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก
- อาวุธปืนยาวลูกกรด ขนาด .22 ยี่ห้อ CZ จำนวน 1 กระบอก
- อาวุธปืนยาว ยี่ห้อ M4 CARBIN ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก
- อาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .357 ยี่ห้อ KING COBRA ขนาด .357 Magnum ไม่ทราบเลขทะเบียน จำนวน 1 กระบอก
- อาวุธปืนไทยประดิษฐ์(ปืนแก๊ป) จำนวน 1 กระบอก
- กระสุนปืนขนาดต่างๆ กว่า 230 นัด
- แฟ้มเก็บเอกสารของผู้จำนำสิ่งของ พร้อมเอกสารภายใน จำนวน 1 อัน
- กระดานไวท์บอร์ดเขียนข้อความระบุ วันที่ เดือน ปี ชื่อบุคคล ยอดเงิน จำนวน 1 แผ่น
- รถยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น ยาริส สีขาว จำนวน 1 คัน
- รถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น วีออส สีม่วง จำนวน 1 คัน
- รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ ไอ จำนวน 1 คัน
.
สอบถามผู้ต้องหายอมรับว่า ตนเองได้รับจำนำรถยนต์จำนวน ในราคา 40,000 บาท รถจักรยานยนต์ในราคา 10,000 บาท และอาวุธปืนกระบอกละ 15,000 บาท โดยรับจำนำอาวุธปืน รถยนต์ และ รถจักรยานยนต์จากทั้งบุคคลทั่วไปและมีข้าราชการบางคนมาใช้บริการตนด้วย โดยทำอาชีพนี้มาแล้วประมาณ 4 ปี คิดดอกเบี้ยประมาณร้อยละ 10 ต่อเดือน หรือประมาณร้อยละ 120 ต่อปี ทำให้มีรายได้เฉลี่ยประมาณ 40,000 ถึง 50,000 บาทต่อเดือน
.
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”, “พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “ตั้งโรงรับจำนำโดยมิได้รับอนุญาต” นำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
.
ในส่วนอาวุธปืนผิดกฎหมายที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดได้จากผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการขยยผลไปยังแหล่งที่มารวมถึงบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
.
#ตำรวจไซเบอร์ #จับขายปืนออนไลน์ #ล่อซื้อปืน #อาวุธเถื่อน #โรงรับจำนำเถื่อน #ดอกเบี้ยโหด #ขอนแก่น #อาวุธปืนผิดกฎหมาย #CyberCrime
#ตำรวจไซเบอร์ #CCIB