MONEY CASH BACK ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน EP.26
MONEY CASH BACK ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน EP.26
MONEY CASH BACK ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน EP.26
ตำรวจไซเบอร์รวบเครือข่ายอ้างเป็นหลานเพื่อนสนิท ตีซี้ชวนลงทุน หลอกโอนรัวๆ กว่า 12 ล้าน อายัดทันเกือบ 5 แสน นำคืนผู้เสียหาย
.
วันพุธที่ 6 ส.ค.68 เวลา 15.30 น. ณ สน.พลับพลาไชย 1 ถนนพลับพลาไชย แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. และ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว “MONEY CASH BACK ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน EP.26” ตำรวจไซเบอร์รวบเครือข่ายอ้างเป็นหลานเพื่อนสนิท ตีซี้ชวนลงทุน หลอกโอนรัวๆ กว่า 12 ล้าน อายัดทันเกือบ
5 แสน นำคืนผู้เสียหาย
.
สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดดำเนินการตามโครงการ “MONEY Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน” โดยก่อนหน้านี้ สามารถจับกุมเครือข่ายบัญชีม้าของขบวนการหลอกลวงออนไลน์ และสามารถติดตามนำคืนให้แก่ผู้เสียหายตามขั้นตอนในโครงการ “MONEY CASH BACK” ไปแล้วหลายครั้ง รวมจำนวนเงินกว่า 230.6 ล้านบาท
.
ล่าสุด เมื่อช่วงวันที่ 17 ก.พ. - 27 มี.ค.68 ผู้เสียหายรายหนึ่ง ได้โดนคนร้ายใช้รูปโปรไฟล์หน้าตาดีติดต่อมาหาผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยคนร้ายอ้างว่าเป็นหลานของเพื่อนสนิทผู้เสียหาย จากนั้นคนร้ายได้พยายามชวนผู้เสียหายพูดคุยสนทนากันเรื่อยมา ซึ่งภายหลังได้ทำทีว่าชอบพอผู้เสียหาย แล้วได้ชวนผู้เสียหายเปลี่ยนไปสนทนากันต่อผ่านแอปพลิเคชันไลน์
.
ต่อมาคนร้ายได้ชักชวนให้ผู้เสียหายลงทุนสกุลเงินต่างประเทศ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้สมัครสมาชิก และโอนเงินไปยังบัญชีที่คนร้ายแจ้ง แต่ภายหลัง ผู้เสียหายพยายามจะถอนเงินออกแต่ ไม่สามารถถอนได้ สุดทท้ายโอนเงินไปทั้งสิ้นจำนวน 26 ครั้ง เสียหายรวมกว่า 12,300,000 บาท บาท จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ในเวลาต่อมา
.
จากกรณีดังกล่าว กก.4 บก.สอท.1 ได้รวบรวมพยานหลักฐานและสืบสวนติดตามผู้ต้องหาในขบวนการได้แล้วบางส่วน โดยดำเนินคดีในข้อหา “''ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น,ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนอันมิใช่ การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา,เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ต้นเกี่ยวข้องโดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด”
.
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถประสานงานธนาคารเพื่ออายัดเงินในบัญชีธนาคารของนายเวละ หนึ่งในผู้ต้องหาไว้ได้ ซึ่งผู้เสียหายได้โอนเข้าบัญชีดังกล่าวเพื่อลงทุนตามที่ถูกหลอก จำนวน 1 ครั้ง เป็นเงิน 600,000 บาท ซึ่งอายัดได้ทันจำนวน 494,124 บาท และภายหลังรับทราบข้อกล่าวหา นายเวละฯ ผู้ต้องหา ให้ถ้อยคำว่า ตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินที่อายัดไว้ ไม่โต้แย้งในกรรมสิทธิ์ และยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งมอบเงินในบัญชีตามจำนวนดังกล่าวคืนให้แก่ผู้เสียหาย
.
โดยวันนี้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดติดตามคดี จึงได้ร่วมกันนำเงินจำนวน 494,124 บาท คืนให้แก่ผู้เสียหาย ตามโครงการ “MONEY Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน”
.
#ตำรวจไซเบอร์ #MONEYCASHBACK #หลอกลงทุนต่างประเทศ #อ้างเป็นหลานเพื่อน #อายัดเงินทัน #คืนเงินผู้เสียหาย #CyberCrime
#ตำรวจไซเบอร์ #CCIB