ตำรวจไซเบอร์ 3 เปิดปฏิบัติการ "ซีลแม่น้ำโขง" ทลายเครือข่ายปลอมไฟแช็กยี่ห้อดังลอบขนข้ามชายแดน พบเงินหมุนเวียนปีละกว่า 10 ล้านบาท พร้อมยึดจานไวเลสลิงก์ลอบส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตข้ามแดนเอื้อมิจฉาชีพ
ตำรวจไซเบอร์ 3 เปิดปฏิบัติการ "ซีลแม่น้ำโขง" ทลายเครือข่ายปลอมไฟแช็กยี่ห้อดังลอบขนข้ามชายแดน พบเงินหมุนเวียนปีละกว่า 10 ล้านบาท พร้อมยึดจานไวเลสลิงก์ลอบส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตข้ามแดนเอื้อมิจฉาชีพ
ตำรวจไซเบอร์ 3 เปิดปฏิบัติการ "ซีลแม่น้ำโขง"
ทลายเครือข่ายปลอมไฟแช็กยี่ห้อดังลอบขนข้ามชายแดน พบเงินหมุนเวียนปีละกว่า 10 ล้านบาท
พร้อมยึดจานไวเลสลิงก์ลอบส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตข้ามแดนเอื้อมิจฉาชีพ
.
ตามนโยบาย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดนโยบายในการเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน และ “นโยบายรัฐบาลในการจัดการปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติยุค Digital Disruption” แก่ข้าราชการตำรวจระดับผู้บริหารทั่วประเทศ ในโครงการสัมมนาผู้บริหาร ระดับผู้บัญชาการหรือเทียบเท่า และผู้บังคับการหรือเทียบเท่า ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร. ได้ขับเคลื่อนนโยบายผ่าน พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะผู้รับผิดชอบควบคุมสั่งการ บช.สอท. และ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศปอส.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. นำเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จนนำมาสู่ปฏิบัติการดังกล่าว
.
วันที่ 27 ก.พ.68 เวลา 09.00 น. ณ บริเวณชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ บช.สอท. (เมืองทองธานี) นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์
รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.3, และ พ.ต.อ.ชัยรัตน์ วรุณโณ รอง ผบก.สอท.2, พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ตำรวจไซเบอร์ 3 เปิดปฏิบัติการ "ซีลแม่น้ำโขง" ทลายเครือข่ายปลอมไฟแช็กยี่ห้อดังลอบขนข้ามชายแดน พบเงินหมุนเวียนปีละกว่า 10 ล้านบาท พร้อมยึดจานดาวเทียมลอบส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตข้ามแดนเอื้อมิจฉาชีพ
.
สืบเนื่องจาก พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.3 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.พรณรงค์ สุริยชัยวงษ์ รอง ผบก.สอท.3 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด สืบสวนคดีความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
จนนำมาสู่การตรวจค้นเป้าหมาย เครือข่ายปลอมไฟแช็กยี่ห้อดัง และการทลายการลักลอบติดตั้งจานกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตระยะไกลที่เอื้อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร
และจังหวัดหนองคาย จำนวน 2 ปฏิบัติการ ดังนี้
.
ปฏิบัติการที่ 1 สืบเนื่องจากกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ได้รับแจ้งจากสำนักงานกฎหมาย R.W.T. ซึ่งได้รับมอบอำนาจจาก บริษัท ไทยเมอร์รี่ จำกัด เจ้าของเครื่องหมายการค้า “Taiyo”
ซึ่งเป็นบริษัทผลิตไฟแช็กยี่ห้อดังของประเทศไทย โดยพบหลักฐานว่าถูกลักลอบนำเข้าผ่านชายแดน และนำไปจำหน่ายโดยปลอมเครื่องหมายการค้า ผ่านช่องทางออนไลน์ และยังมีการโพสต์ในลักษณะแอบอ้างว่า
สินค้าดังกล่าวเป็นของแท้ ซึ่งอาจเป็นการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จึงได้ทำการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด กระทั่งพบว่า เครือข่ายดังกล่าวกระจายอยู่ในจังหวัดมุกดาหาร และมีลักษณะเป็นขบวนการมีการแบ่งหน้าที่กันทำจากการสืบสวนพบว่ามีเงินหมุนเวียนในขบวนการดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทต่อปี โดยได้ทำมาเป็นระยะเวลากว่า 4 ปีแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับ และหมายค้นจากศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เพื่อทำการตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาในขบวนการดังกล่าว
.
กระทั่งในวันที่ 26 ก.พ.2568 พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3 พร้อมด้วย พ.ต.ท.อนุสรณ์ ธีรนุชพงศ์, พ.ต.ท.วีระศักดิ์ แก้วเนียม, พ.ต.ท.ชนทัช วุฒิภัทรโสภณ, พ.ต.ท.ธนัช ธนาบุญประกอบ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3, พ.ต.ท.เลอศักดิ์ พิเชษฐไพบูลย์, พ.ต.ท.อโนทัย ดียิ่ง, พ.ต.ท.นฤภัทร เทียนชัยทัศน์, พ.ต.ท.นราภพ นวลเท่า, พ.ต.ต.ขจร แย้มชม, พ.ต.ต.ธวัช ทุเครือ, พ.ต.ต.เอกสิทธิ์ พระศรี, พ.ต.ต.วินัย ชมพุฒ, พ.ต.ต.สมพร บุตรวงศ์ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ และกำลังเจ้าหน้าที่ในสังกัด ได้กระจายกำลังพร้อมนำหมายค้นศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เข้าตรวจค้นบ้านพักและสถานที่เก็บสินค้าผิดกฎหมายในพื้นที่ จ.มุกดาหาร จำนวน 5 จุด ทำการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้จำนวน 4 ราย ดังนี้
1.นายประจวบ อายุ 46 ปี
2.นายนครินทร์ อายุ 28 ปี
3.น.ส.นราวดี อายุ 42 ปี
4.น.ส.รินรดา อายุ 24 ปี
.
พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นไฟแช็กปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อ “Taiyo” จำนวน 2,050 ชิ้น, สมุดบัญชีธนาคาร, โทรศัพทมือถือที่ใช้บัญชีสำหรับรับโอนค่าสินค้า และสมุดจดรายละเอียดการส่งสินค้า
นำส่งพนักงานสอบสวน บก.สอท.3 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลกลุ่มเครือข่ายดังกล่าวเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
.
ปฏิบัติการที่ 2 ตำรวจไซเบอร์ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และตำรวจภูธรภาค 4 เปิดปฏิบัติการตรวจค้น 3 จุด
ในพื้นที่ จ.หนองคาย หลังจากสืบทราบว่ามีการติดตั้งจานกระจายสัญญาณที่สามารถส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตระยะไกลได้สูงสุดถึง 30 กิโลเมตร โดยหันหน้าไปทางสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งอาจ
ตั้งข้อสังเกตได้ว่า อาจเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สอท.3
นำโดย พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี ผกก.1 บก.สอท.3, พ.ต.ท.ภัทรเดช ภัทรบุตรเพชร รอง ผกก.1 บก.สอท.3 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด นำหมายค้นเข้าตรวจสอบในพื้นที่ทั้ง 3 จุด ดังนี้
.
จุดที่ 1 ภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ที่ 10 ต.โพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย พบจานไวเลสลิงก์ ติดตั้งที่ความสูง 37.4 เมตร หันทิศทางไปยัง สปป.ลาว ห่างจากชายแดนเพียง 1.24 กิโลเมตร
.
จุดที่ 2 ภายในอาคารแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.หนองกอมเกาะ อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย พบจานไวเลสลิงก์ ติดตั้งที่ความสูง 25.6 เมตร ระยะห่างจากชายแดน 6 กิโลเมตร
.
จุดที่ 3 ภายในอาคารแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.โพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย พบจานไวเลสลิงก์ ติดตั้งที่ความสูง 18 เมตร ระยะห่างจากชายแดน 936 เมตร
.
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ กสทช.ภาค 2 ได้ตรวจยึดของกลางจำนวน 11 รายการ และลงบันทึกประจำวันเพื่อเป็นหลักฐานไว้ที่ สภ.เมืองหนองคาย โดยจะนำของกลางกลับไปตรวจสอบพร้อมสืบสวนขยายผล เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
.
#ตำรวจไซเบอร์ #ซีลแม่น้ำโขง #ทลายเครือข่ายปลอม #ไฟแช็กปลอม #อาชญากรรมออนไลน์ #การค้าผิดกฎหมาย #อาชญากรรมข้ามชาติ #การกระทำผิดทางเทคโนโลยี #จับกุมผู้กระทำผิด #การกระจายสัญญาณ #สัญญาณอินเทอร์เน็ตข้ามชาติ #คอลเซ็นเตอร์ #ตำรวจภูธร #การสืบสวน #การติดตามขยายผล #บังคับใช้กฎหมาย #อาชญากรรมดิจิทัล #นโยบายรัฐบาล #ความปลอดภัยของประชาชน
#ตำรวจไซเบอร์ #CCIB