ตำรวจไซเบอร์จับกุมบุหรี่ไฟฟ้าต่อเนื่อง และรวบเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ พนันออนไลน์หลายขบวนการ
ตำรวจไซเบอร์จับกุมบุหรี่ไฟฟ้าต่อเนื่อง และรวบเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ พนันออนไลน์หลายขบวนการ
ตำรวจไซเบอร์จับกุมบุหรี่ไฟฟ้าต่อเนื่อง และรวบเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ พนันออนไลน์หลายขบวนการ
.
สืบเนื่องจากนโยบายของ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ให้แต่ละกองบังคับการ มีการการระดมจับกุมอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยในโลกไซเบอร์และปราบปรามการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการดำเนินการในทุกๆ เดือน อย่างน้อย 2 ครั้ง เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และตำรวจไซเบอร์ได้มีการจับกุมในคดีอาชญากรรมออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ทุกประเภท ได้แก่
.
1. ปฏิบัติการจับกุมบุหรี่ไฟฟ้า
กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.5 ได้สืบสวนทราบตัวผู้จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า คือ นายสุมาน อายุ 55 ปี ชาวจังหวัดสงขลา โดยจับกุมได้ที่ หน้าบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมของกลางหัวพอร์ต และนำยาบุหรี่ไฟฟ้า รวมกว่า 20 รายการ
.
2. ปฏิบัติการกวาดล้างขบวนการคอลเซ็นเตอร์
2.1. กก.4 บก.สอท.4 จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับเครือข่ายหลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ หลอกลงทุน และคอลเซ็นเตอร์ น.ส.วิลาวัณย์ อายุ 29 ปี ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ ตามหมายศาลจังหวัดเชียงใหม่ โดยจับกุมได้ที่หน้าแมนชั่นแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ
.
2.2. กก.1 บก.สอท.1 จับกุมนางสาวดาริกา อายุ 33 ปี ชาวจังหวัดนครพนม เครือข่ายหลอกเป็น DSI ให้ติดตั้งแอปพลิเคชันดูดเงิน โอนออกทั้งหมด 3 บัญชี มูลค่ากว่า 1,179,478 บาท
.
2.3. กก.3 บก.สอท.5 จับกุมนายบัณฑิต อายุ 28 ปี ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีในเครือข่ายหลอกลงทุน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” ผู้ต้องหาให้การว่าขอกู้เงินผ่านเฟซบุ๊ก แต่ผู้กู้แจ้งว่าต้องเปิดบัญชีใหม่ และมาทราบภายหลังว่า ถูกนำบัญชีไปใช้
.
3. การจับกุมพนันออนไลน์
กก.4 บก.สอท.3 จับกุมนางสาวสุภาพร อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น ในข้อหา “จัดให้มีการเล่นพนัน(ฟุตบอล) โดยผิดกฎหมาย” พร้อมของกลางหลายรายการ
.
เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ยังคงสืบสวนอย่างต่อเนื่อง และการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ในการตรวจสอบข้อมูลการโอนเงิน และการใช้เทคโนโลยีในการหลอกลวงที่ถูกใช้ในคดีหลายกรณี ที่มีผู้เสียหายจำนวนมาก โดยผู้ต้องหาหลายรายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการธุรกรรมการเงินผ่านบัญชีปลอมและการทำธุรกรรมออนไลน์ในลักษณะหลอกลวง ซึ่งมีการทำงานเป็นระบบตั้งแต่ระดับผู้ปฏิบัติการไปจนถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังที่คอยสั่งการการดำเนินงาน
.
ทั้งนี้ ตำรวจไซเบอร์ยังคงเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเพิ่มความระมัดระวังในการใช้บริการโทรศัพท์และการทำธุรกรรมออนไลน์ พร้อมทั้งแนะนำให้ประชาชนตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือและไม่หลงเชื่อข้อความหรือข้อเสนอที่ดูไม่น่าเชื่อถือจากแหล่งที่ไม่รู้จัก
.
#ตำรวจไซเบอร์ #CyberPolice #ปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ #ทลายเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ #บุหรี่ไฟฟ้า #พนันออนไลน์ #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #ระวังมิจฉาชีพออนไลน์
#อย่าหลงเชื่อแก๊งหลอกลวง #บุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย #ร่วมมือปราบอาชญากรรม
#ตำรวจไซเบอร์ #CCIB