ตำรวจไซเบอร์ปลอมตัวเป็นพระสายลับ รวบเจ้าของเพจขายอาวุธปืนออนไลน์ พร้อมเดินหน้าล่าเครือข่ายอาวุธปืนผิดกฎหมาย
ตำรวจไซเบอร์ปลอมตัวเป็นพระสายลับ รวบเจ้าของเพจขายอาวุธปืนออนไลน์ พร้อมเดินหน้าล่าเครือข่ายอาวุธปืนผิดกฎหมาย
ตำรวจไซเบอร์ปลอมตัวเป็นพระสายลับ รวบเจ้าของเพจขายอาวุธปืนออนไลน์ พร้อมเดินหน้าล่าเครือข่ายอาวุธปืนผิดกฎหมาย
.
วันอังคารที่ 13 พ.ค.68 เวลา 11.30 น. ณ บริเวณชั้น 1 บก.สอท.2 นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. และ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ตำรวจไซเบอร์ปลอมตัวเป็นพระสายลับ รวบเจ้าของเพจขายอาวุธปืนออนไลน์ พร้อมเดินหน้าล่าเครือข่ายอาวุธปืนผิดกฎหมาย
.
สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดกวาดล้างจับกุมการกระทำผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนออนไลน์ จนกระทั่งนำมาสู่การตรวจค้นจับกุม จำนวน 3 ปฏิบัติการ ดังนี้
.
ปฏิบัติการที่ 1 : กก.2 บก.สอท.3 ปลอมตัวเป็นพระสายลับ รวบเจ้าของเพจขายอาวุธปืนออนไลน์
.
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.3 ได้สืบสวนทราบว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ “โด้ ธนาเสฎฐ์” ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กกลุ่มสาธารณะ ซึ่งเป็นกลุ่มซื้อขายอาวุธปืน ต่อมา พ.ต.อ.อรุณณพันธ์ วานิช์ชานันท์ ผกก.2 บก.สอท.3 ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.อโนทัย ดียิ่ง รอง ผกก.2 บก.สอท.3 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดวางแผนเข้าจับกุมโดยประสานการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ปพ.บก.สส.ภ.4
.
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปลอมตัวเป็นพระใหม่ที่บวชภาคฤดูร้อน และติดต่อขอซื้ออาวุธปืนจากเฟซบุ๊กดังกล่าว ในราคา 22,000 บาท มีการตกลงซื้อขายกันและนัดหมายส่งมอบอาวุธปืน
.
เมื่อถึงเวลาก่อนการนัดหมายกันไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังซุ่มดูบริเวณลานจอดรถภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ใน อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม กระทั่งถึงเวลานัดหมายที่เกิดเหตุ พบ นายจารุวัฒน์ฯ ได้ขับรถยนต์กระบะสีดำเข้ามาจอด และได้โทรศัพท์แจ้งให้พระสายลับไปพบที่รถยนต์คันดังกล่าว
.
ต่อมา พระสายลับได้เข้าไปพบและตรวจสอบอาวุธปืนของกลาง เมื่อพบว่าเป็นอาวุธปืนจริงจึงได้ส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ซุ่มอยู่บริเวณใกล้เคียงเข้าทำการจับกุม ผลการตรวจค้น พบอาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ Colts ขนาด 11 มม. สีดำ จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ Norinco สีดำ ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอกและอาวุธปืนพกสั้นชนิดลูกโม่ ยี่ห้อ Astra Cadix Cal ขนาด .22 มม. สีขาว จำนวน 1 กระบอก พร้อมด้วย กระสุนปืนขนาด 11 มม. จำนวน 20 นัด และกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 50 นัด
.
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงข้อกล่าวหาความผิดฐาน “มีอาวุธปืนในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีเครื่องกระสุนปืนในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490” ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
.
ปฏิบัติการที่ 2 : กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 รวบหนุ่มเบญจเพส ขายอาวุธปืนออนไลน์ อ้างหาตังค์ซื้อปุ๋ยใส่สวนทุเรียน
.
สืบเนื่องจาก กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 ได้สืบสวนพบการซื้อขายอาวุธปืนผิดกฎหมายผ่านกลุ่มบนแอปพลิเคชัน Facebook ซึ่งมีสมาชิกเกือบ 20,000 คน ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แฝงตัวเข้าไปในกลุ่มและติดต่อขอซื้ออาวุธปืนจากบุคคลในกลุ่ม ซึ่งมีผู้ใช้บัญชี Facebook ชื่อ “Ra Mas” ตกลงขายอาวุธปืนให้ 1 กระบอก โดยนัดส่งมอบกันที่หน้าบ้านหลังหนึ่งในสวนทุเรียน ต.เขาแก้ว อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี
.
เมื่อถึงเวลาก่อนการนัดหมายกันไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังซุ่มดูโดยรอบจุดนัดหมาย ต่อมา พบ นายปรเมศวร์ อายุ 25 ปี (ทราบชื่อภายหลัง) ยืนรอส่งมอบอาวุธปืนอยู่ที่หน้าบ้านดังกล่าว จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้น
.
ผลการตรวจค้น พบอาวุธปืนสั้นแปลงขนาด .380 จำนวน 1 กระบอก, กระสุนปืนขนาด .380 จำนวน 1 นัด, กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 5 นัด และกล่องใส่ปืน จำนวน 1 กล่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน”
.
สอบถาม นายปรเมศวร์ฯ รับว่าตนเองเป็นเกษตรกรทำสวนทุเรียน ส่วนอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นได้นั้น ตนได้ซื้อมาจากเพื่อนที่จังหวัดสระแก้วเพื่อนำมาขายต่อเอากำไร เพื่อจะนำเงินไปซื้อปุ๋ยมาใส่ทุเรียนที่ตนปลูก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
.
ปฏิบัติการที่ 3 : กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.4 ขยายผลจับหนุ่มซื้ออาวุธปืนออนไลน์
.
สืบเนื่องจากเมื่อ 13 พ.ย.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สอท.2 ได้จับกุมนายอิทธิโชค อายุ 24 ปี ได้ที่บริเวณบ้านในพื้นที่ หมู่ 3 อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี พร้อมอาวุธปืนแบลงก์กันดัดแปลง จำนวน 2 กระบอก, ลำกล้องปืน จำนวน 1 ชุด, กระสุนปืน รวมจำนวน 71 นัด
.
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.4 ได้ทำการสืบสวนจนพบความเชื่อมโยงไปยัง นายอนุศักดิ์ หรือ ชา อายุ 33 ปี โดยนาย อนุศักดิ์ มักมีพฤติกรรมสั่งซื้ออาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจากสื่อโซเชียลมีเดีย กระทั่งสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายค้นจากศาลจังหวัดอุทัยธานีได้สำเร็จ
.
ต่อมา พ.ต.ท.อนุรักษ์ พรมเมือง รอง ผกก.ฯ, พ.ต.ท.ธนาชัย สุวรรณโท สว.ฯ, พ.ต.ท.ภัทรศักดิ์ สมงาม สว.ฯ, และ พ.ต.ท.กิตติ เพชรแสงสว่าง สว.ฯ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ในสังกัด กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.4 พร้อมหมายค้นศาลจังหวัดอุทัยธานี ที่ 86/2568 ลง 8 พ.ค.68 เข้าทำการตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 5 ต.สุขฤทัย อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี ผลการตรวจค้น พบ 1.อาวุธปืนยาว ยี่ห้อ Rock Island ขนาด .22 พร้อมกล้องช่วยเล็ง จำนวน 1 กระบอก, ซองบรรจุกระสุน จำนวน 1 อัน และกระสุนปืน ขนาด .22lr รวมจำนวน 20 นัด จึงได้แจ้งข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
.
#ตำรวจไซเบอร์ #ปลอมตัวเป็นพระ #จับเจ้าของเพจขายปืน #ล่าเครือข่ายอาวุธเถื่อน #อาวุธปืนผิดกฎหมาย #จับกุมขายปืนออนไลน์ #ตำรวจสายลับ #ปฏิบัติการพิเศษ #สกัดอาวุธเถื่อน #CyberPolice
#ตำรวจไซเบอร์ #CCIB