ตำรวจไซเบอร์จับเพจขายยาแก้ไอเถื่อน เปิดร้านทุกอย่าง 20 บังหน้า ยึดของกลางกว่า 7,600 ขวด
ตำรวจไซเบอร์จับเพจขายยาแก้ไอเถื่อน เปิดร้านทุกอย่าง 20 บังหน้า ยึดของกลางกว่า 7,600 ขวด
ตำรวจไซเบอร์จับเพจขายยาแก้ไอเถื่อน เปิดร้านทุกอย่าง 20 บังหน้า ยึดของกลางกว่า 7,600 ขวด
.
วันศุกร์ที่ 16 พ.ค.68 เวลา 12.30 น. ณ บริเวณชั้น 1 บก.สอท.2 นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. และ พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ตำรวจไซเบอร์จับเพจขายยาแก้ไอเถื่อน เปิดร้านทุกอย่าง 20 บังหน้า ยึดของกลางกว่า 7,600 ขวด
.
สืบเนื่องจาก กก.4 บก.สอท.2 ได้สืบสวนพบการลักลอบจำหน่ายยาแก้ไขทางออนไลน์ ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจชื่อ “คลังยา สมใจนึก” และ เพจ “tico tawan” จึงได้ทำการสืบสวนและทดลองล่อซื้อ กระทั่งพบหลักฐานเชื่อมโยงไปยังสถานที่จัดเก็บและจัดส่ง จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายค้นได้สำเร็จ
.
ต่อมา พ.ต.ท.ชัยภัทร เชื้อสาย สว.กก.4 บก.สอท.2 ได้นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ ค.207/2568 เข้าทำการตรวจค้นร้านขายของทุกอย่าง 20 บาทแห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 6 ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
.
จากการตรวจค้น พบนายสุธี อายุ 39 ปี พร้อมด้วยยาแก้ไอบรรจุอยู่ในลังกระดาษรวมทั้งสิ้น จำนวน 7,600 ขวดอยู่ภายในห้องพัก และวางกระจายอยู่ในจุดต่าง ๆ ภายในร้านค้าดังกล่าว จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง ประกอบด้วย
1. ยา diphenyl (ไดเฟนนิล) จำนวน 800 ขวด, ยา datissin (ดาทิสซิน) จำนวน 310 ขวด, ยา allernin (อเลอร์นิน) จำนวน 100 ขวด
2. ยา asacog (อาชาค็อก) จำนวน 45 ขวด, ยา datissin (ดาทิสซิน) จำนวน 20 ขวด
3. ยา allernin (อเลอร์นิ่น) จำนวน 3,000 ขวด, ยา datissin (ดาทิสซิน) จำนวน 1,000 ขวด
4. ยา diphenyl (ไดเฟนนิล) จำนวน 2,000 ขวด
5. ยา asacog (อาชาค็อก) จำนวน 300 ขวด
6. ยา asacog (อาชาค็อก) จำนวน 5 ขวด, ยา datissin (ดาทิสซิน) จำนวน 20 ขวด
.
เบื้องต้น นายสุธี ฯ ยอมเปิดเผยข้อมูลแค่เพียงว่า ตนเองจำหน่ายของกลางดังกล่าวในราคาขวดละ 80-100 บาท และอ้างว่า เภสัชกรได้สั่งของกลางดังกล่าวมาจากแหล่งผลิต โดยสั่งมาเดือนละไม่เกิน 600 ขวด แต่ยังไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลแหล่งผลิตรวมถึงข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
.
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “จำหน่ายยาแผนปัจจุบัน(ยาแก้ไอ) โดยไม่ได้รับอนุญาต” นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลไปยังส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
.
สำหรับยาโปรโคดิลนั้น เป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่น ซึ่งยาของกลางเหล่านี้มีตัวยาสำคัญอย่าง “โปรเมทาซีน” ซึ่งมีฤทธิ์คล้ายยารักษาอาการทางจิตเวช เมื่อนำไปผสมกับสารเสพติด หรือน้ำกระท่อม (ยา 4x100) จะมีฤทธิ์คล้ายยารักษาอาการทางจิตเวชทำให้เกิดอาการข้างเคียงคือ ง่วง ซึม เมื่อนำไปผสมกับเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือยาชนิดอื่นที่มีฤทธิ์ทำให้ตื่นตัว ทำให้วัยรุ่นที่ที่ดื่มกินนั้นมีอาการคล้ายกับการดื่มสุรา โดยมีอาการที่เกิดขึ้น เช่น ง่วง มึนงง สลึมสะลือ มึนเมา คล้ายอาการกึ่งหลับกึ่งตื่น เหมือนกันกับการเมาสุรา เมื่อเสพเข้าไปบ่อยครั้ง จะส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาว และอาจก่อให้เกิดอาการประสาทหลอน จนเป็นอันตรายต่อสังคมได้
.
การจำหน่ายยาดังกล่าวต้องมีใบอนุญาตขายยาแผนปัจจุบันของกระทรวงสาธารณะสุข มิฉะนั้นจะเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 มาตรา 12 “ห้ามผู้ใดผลิต ขาย หรือนำสั่งเข้ามาในราชอาญาจักรซึ่งยาแผนปัจจุบัน”
ผู้ฝ่าฝืนมีโทษตามมาตรา 101 “ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท” (คำจำกัดความของคำว่า “ขาย” หมายถึง ขายปลีก ขายส่ง จำหน่าย จ่ายแจก แลกเปลี่ยน หรือเพื่อประโยชน์ทางการค้า และให้หมายความรวมถึงการมีไว้เพื่อขายด้วย)
.
#ตำรวจไซเบอร์ #CyberPolice #จับเพจขายยาเถื่อน #ยาแก้ไอเถื่อน #เปิดร้านบังหน้า #ปราบปรามยาเถื่อน #ยาแก้ไอผิดกฎหมาย #ProCodil #ยาอันตราย #วัยรุ่นเสี่ยงยา
#ตำรวจไซเบอร์ #CCIB