ตำรวจไซเบอร์ร่วมแถลงผลยกระดับปราบโจรออนไลน์เดือนแรก รวบผู้ต้องหาคดีสำคัญ 73 ราย อายัดทรัพย์แล้วกว่า 522 ล้าน
ตำรวจไซเบอร์ร่วมแถลงผลยกระดับปราบโจรออนไลน์เดือนแรก รวบผู้ต้องหาคดีสำคัญ 73 ราย อายัดทรัพย์แล้วกว่า 522 ล้าน
ตำรวจไซเบอร์ร่วมแถลงผลยกระดับปราบโจรออนไลน์เดือนแรก
รวบผู้ต้องหาคดีสำคัญ 73 ราย อายัดทรัพย์แล้วกว่า 522 ล้าน
.
วันจันทร์ที่ 27 ต.ค.68 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 2 กองบังคับการปราบปราม - พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท. ได้ร่วมแถลงข่าวผลการยกระดับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีตลอดเดือนตุลาคม 2568 ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ เพื่อคุ้มครองประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม โดย บช.สอท. ได้ร่วมดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาคดีสำคัญอย่างต่อเนื่อง
.
โดยการแถลงผลการปฏิบัติในครั้งนี้ ได้มีนายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธาน พร้อมด้วย พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร., พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศปอส.ตร. และ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. ร่วมแถลงข่าว
.
โดยรัฐบาลได้กำหนดให้การปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นวาระแห่งชาติ จึงได้มีการบูรณาการความร่วมมือหลายหน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลฯ ปปง. กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย และธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อกำหนดมาตรการและแนวทางป้องกัน–ปราบปรามอย่างเข้มข้น
.
สำหรับสถานการณ์ห้วงวันที่ 1–26 ต.ค.68) พบว่ามีผู้เสียหายแจ้งเหตุรวม 29,232 เรื่อง มูลค่าความเสียหายรวม 1,853 ล้านบาท โดยสามารถปราบปรามจนมีผลการปฏิบัติในส่วนที่เป็นคดีสำคัญ ดังนี้
จับกุมผู้ต้องหา 73 ราย (ไทย 51 ราย / ต่างชาติ 22 ราย)
มูลค่าความเสียหายรวมที่เกี่ยวข้องกว่า 1,400 ล้านบาท
ยึดอายัดทรัพย์สินได้กว่า 522 ล้านบาท
ตรวจยึด Sim Box และอุปกรณ์สนับสนุนการหลอกลวงจำนวนมาก
.
ในส่วนความร่วมมือกับสถาบันการเงินและต่างประเทศ สามารถยับยั้งผู้เสียหายไม่ให้โอนเงินได้ 7 ราย, ได้ร่วมกับ US Secret Service และบริษัท Tether อายัดกระเป๋า Crypto มูลค่า 12 ล้าน USDT (ประมาณ 400 ล้านบาท), เปิดปฏิบิการทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวเกาหลีใต้ในไทย, รวมทั้งคัดกรองคนเข้าเมืองที่แม่สอด พบ 1,299 ราย มีผู้ต้องหาตามหมายจับจีนรวม 12 ราย
.
ในส่วนการดำเนินการเกี่ยวกับโซเชียลมีเดีย ได้ปิดกั้นสื่อออนไลน์หลอกลวงทั้งลิงก์และแพลตฟอร์มผิดกฎหมาย รวม 2,754 URLs ซึ่งในจำนวนนี้ มีบัญชีเฟซบุ๊กหลอกลวงที่ถูกปิดกั้นมากถึง 1,065 URLs
.
นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกันประชาสัมพันธ์เตือนภัยพี่น้องประชาชนเพื่อสร้างการรับรู้ ผลิตสื่อเตือนภัยมากกว่า 360 คอนเทนต์โดยทำงานร่วมกับสื่อมวลชนและแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ
.
#ตำรวจไซเบอร์ #ยกระดับ #ปราบโจรออนไลน์
ตำรวจไซเบอร์
CCIB
#CCIB