ตร.ไซเบอร์รวบเครือข่ายหลอกลงทุนแลกเปลี่ยนสกุลเงิน อายัดทัน 2.6 แสน นำคืนผู้เสียหาย
ตร.ไซเบอร์รวบเครือข่ายหลอกลงทุนแลกเปลี่ยนสกุลเงิน อายัดทัน 2.6 แสน นำคืนผู้เสียหาย
ตร.ไซเบอร์รวบเครือข่ายหลอกลงทุนแลกเปลี่ยนสกุลเงิน
อายัดทัน 2.6 แสน นำคืนผู้เสียหาย
.
วันอังคารที่ 28 ต.ค.68 เวลา 11.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 3 บก.สอท.2 นำโดย พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรุษ แสงจันทร์, พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน, พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ, พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์ คล้ายคลึง รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ศิลา กาญจน์รักษ์ ผบก.สอท.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ตร.ไซเบอร์รวบเครือข่ายหลอกลงทุนแลกเปลี่ยนสกุลเงิน อายัดทัน 2.6 แสน นำคืนผู้เสียหาย
.
สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดขับเคลื่อนโครงการ “MONEY Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน” ให้ต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้ สามารถจับกุมเครือข่ายบัญชีม้าของขบวนการหลอกลวงออนไลน์ และสามารถติดตามนำคืนให้แก่ผู้เสียหายตามขั้นตอนในโครงการ “MONEY CASH BACK” ไปแล้วหลายครั้ง รวมจำนวนเงินกว่า 230 ล้านบาท
.
โดยเมื่อวันที่ 1 ก.พ.68 ได้มีมิจฉาชีพใช้ภาพโปรไฟล์หน้าตาดีเพิ่มเป็นเพื่อนกับผู้เสียหายรายหนึ่งผ่านแอปพลิเคชันไลน์ จากนั้นได้พูดคุยกันจนเกิดความสนิทสนมและไว้ใจ จากนั้นบัญชีไลน์ดังกล่าวได้เริ่มชักชวนให้ผู้เสียหายลงทุนเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน อ้างว่าจะได้ผลกำไรต่อครั้งมากถึง 25 เปอร์เซ็นต์ของเงินที่ลงทุน ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงทำตามขั้นตอนที่คนร้ายแนะนำ และได้โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารชื่อบัญชีบุคคลต่างๆ จำนวน 4 บัญชี รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,000,000 บาท แต่เมื่อผู้เสียหายต้องการถอนเงินลงทุนคืน กลับไม่สามารถถอนได้ จึงรู้ตัวว่าโดนหลอกลวง และได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ในเวลาต่อมา
.
จากกรณีดังกล่าว พ.ต.อ.อุกฤช ศรีนิติวรวงศ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ในสังกัดได้ร่วมกันสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานส่งมอบให้แก่ พ.ต.อ.วิศวรุตม์ ไทยธานี ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.สอท.5 กระทั่งพนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อออกหมายจับผู้ต้องหา โดยดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ต้นเกี่ยวข้องโดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด”
.
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถประสานงานธนาคารเพื่ออายัดเงินในบัญชีธนาคารของ น.ส.มนัฐฑกรณ์ ฯ หนึ่งในผู้ต้องหาที่รับโอนเงินไว้ได้ ซึ่งผู้เสียหายได้โอนเข้าบัญชีดังกล่าวเพื่อลงทุนตามที่ถูกหลอก จำนวน 1 ครั้ง เป็นเงิน 350,000 บาท โดยสามารถอายัดเงินได้ทัน จำนวน 265,510 บาท และภายหลังผู้ต้องหารับทราบข้อกล่าวหาแล้วได้ให้ถ้อยคำว่า ตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินที่อายัดไว้ ไม่ขอโต้แย้งในกรรมสิทธิ์ และยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งมอบเงินในบัญชีตามจำนวนดังกล่าวคืนให้แก่ผู้เสียหาย
.
โดยวันนี้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดติดตามคดี จึงได้ร่วมกันนำเงินจำนวน 265,510 บาท คืนให้แก่ผู้เสียหายตามโครงการ“MONEY Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน”
.
#ตำรวจไซเบอร์ #ปิดบัญชี #ตามล่าม้า #คว้าเงินคืน
ตำรวจไซเบอร์
CCIB
#CCIB