ตร.ไซเบอร์เปิดปฏิบัติการ “THE WATCHER ล่าเงาหลังจอ”
ตร.ไซเบอร์เปิดปฏิบัติการ “THE WATCHER ล่าเงาหลังจอ”
ตร.ไซเบอร์เปิดปฏิบัติการ “THE WATCHER ล่าเงาหลังจอ”
1) รวบเฒ่าวัย 59 เสพคลิปโป๊เด็ก เผยหื่นแล้วลวงเด็กขายพวงมาลัยมาล่วงละเมิด
2) รวบ 2 เจ้าของบัญชีเอ็กซ์ เปิดกลุ่มคลิปโป๊ออนไลน์แฝงโฆษณาโปรโมทเว็บพนัน
3) รวบพ่อเลี้ยงหื่น อนาจาร 2 บุตรสาวอัดคลิปสะสม
4) รวบหมอทำขวัญ เปิดกลุ่มลับขายคลิปอนาจารเด็ก
ตามนโยบายของรัฐบาล ได้กำหนดนโยบายในการเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง จตช. ในฐานะ รอง ผอ.ศปอส.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.สุรพล
เปรมบุตร ผบช.สอท. นำเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จนนำมาสู่ปฏิบัติการดังกล่าว
วันศุกร์ที่ 10 ต.ค.68 เวลา 10.00 น. ณ บริเวณชั้น 1 บก.สอท.2 นำโดย พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรุษ แสงจันทร์, พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน, พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ, พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์ คล้ายคลึง รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1, พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 และ พล.ต.ต.ทรงกลด เกริกกฤตยา ผบก.ตอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ตร.ไซเบอร์
เปิดปฏิบัติการ THE WATCHER ล่าเงาหลังจอ
สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ยกระดับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบ รวมทั้งการกระทำผิดเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจาร โดยเฉพาะสื่อลามกอนาจารเด็ก ซึ่งเป็นอาชญากรรมร้ายแรงที่สร้างบาดแผลทางจิตใจแก่เหยื่อ ละเมิดสิทธิมนุษยชน และเป็นบ่อนทำลายศีลธรรมของสังคม การเผยแพร่หรือครอบครองสื่อประเภทนี้ยังเป็นช่องทางขยายเครือข่ายอาชญากรรมทางเพศในโลกออนไลน์ จึงจำเป็นต้องกวาดล้างอย่างเร่งด่วน เพื่อยุติวงจรอาชญากรรมและคุ้มครองความปลอดภัยของเด็กและเยาวชน จนนำมาสู่ปฏิบัติการ “Operation THE WATCHER ล่าเงาหลังจอ” โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 5 ราย ดังนี้
1) กก.1 บก.สอท.1 รวบเฒ่าวัย 59 เสพคลิปโป๊เด็ก เผยหื่นแล้วลวงเด็กขายพวงมาลัยมาล่วงละเมิด
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สอท.1 ได้รับการประสานจากมูลนิธิ Sentinel Foundation จากประเทศสหรัฐอเมริกา และ โครงการฮัก (Hug Project) ภายใต้มูลนิธิสานสัมพันธ์ครอบครัว ซึ่งเป็นโครงการที่จัดตั้งขึ้นเพื่อให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟู ให้แก่ผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์รวมถึงเด็กที่ถูกละเมิดในด้านต่างๆ และกลุ่มเสี่ยง โดยรับแจ้งว่า ได้มีผู้ให้บริการอีเมล์ชื่อดังรายงานข้อมูลผ่านศูนย์ประสานงานช่วยเหลือเด็กหายและเด็กถูกละเมิดแห่งชาติของประเทศสหรัฐอเมริกา (NATIONAL CENTER FOR MISSING & EXPLOITED CHILDREN) หรือ NCMEC ว่าได้ตรวจพบ User บัญชีหนึ่ง ได้อัปโหลดภาพและวิดีโอสื่อลามกอนาจารเด็กในระบบคลาวด์จำนวนมาก โดยบุคคลดังกล่าว Log In มาจากพื้นที่ประเทศไทย จึงประสานความร่วมมือมายังตำรวจไซเบอร์ให้ช่วยดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนกรณีดังกล่าว จนสามารถระบุตัวตนและที่พักของผู้ต้องหาได้ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายค้นพื้นที่เป้าหมายได้สำเร็จ
กระทั่ง พ.ต.อ.รุ่งเลิศ คันธจันทร์ ผกก.1 บก.สอท.1 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดพร้อมหมายค้นศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ ค 108/2568 เข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่ง ในซอยพระราม 3/27 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม. และสามารถจับกุมตัว นายเจตน์ษดา อายุ 59 ปี พร้อมของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือ Redmi 10C และ iPhone X วางอยู่บนเตียงนอน
จากการตรวจสอบข้อมูลภายในโทรศัพท์ พบไฟล์สื่อลามกอนาจารเด็กจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ซักถามจนเจ้าตัวรับสารภาพว่า ตนเองครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กจริง และเคยเสพติดสื่อประเภทดังกล่าวจนนำไปสู่การลงมือก่อเหตุในชีวิตจริงกับเด็ก โดยตนเองเคยตระเวนไปตามปั๊มน้ำมันจนพบกับเด็กผู้ชายที่ขายพวงมาลัยหรือเด็กเร่ร่อน แล้วให้เงินเป็นค่าตอบแทน ก่อนจะล่อลวงไปกระทำอนาจาร
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา “ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น” และนำตัวพร้อมของกลางส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเร่งสืบสวนขยายผลเพื่อหาตัวเหยื่อที่เคยถูกล่วงละเมิดเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่พบว่าผู้ต้องหานำสื่อลามกอนาจารเด็กที่ผลิตขึ้นไปแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ ก็จะพิจารณาแจ้งข้อหาเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ต่อไป
2) กก.4 บก.สอท.2 รวบ 2 เจ้าของบัญชีเอ็กซ์ เปิดกลุ่มคลิปโป๊ออนไลน์แฝงโฆษณาโปรโมทเว็บพนัน
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สอท.2 ได้สืบสวนพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ใช้แอปพลิเคชัน “เอ็กซ์ (X)” หรือ “ทวิตเตอร์” ที่มีพฤติกรรมลักลอบเผยแพร่สื่อลามกอนาจาร ซึ่งส่วนใหญ่มีการแนบลิงก์เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์พนันออนไลน์เพื่อโฆษณาเชิงพาณิชย์
จากข้อมูลการสืบสวนพบว่า ได้มีบัญชีผู้ใช้ชื่อ “Call joy (ไม่นัด ตอบแค่แอคล็อค)” ได้เผยแพร่สื่อลามกอนาจาร
โดยเปิดบัญชีเป็นสาธารณะอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ จนทำให้มียอดผู้ติดตามมากกว่า 9,000 ราย และยังมีการเปิดกลุ่มลับให้คนทั่วไปเป็นสมาชิกในราคา 399 บาทต่อเดือน เพื่อเป็นช่องทางในการค้าและโฆษณาเว็บไซต์พนันออนไลน์อีกด้วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจยังตรวจพบบัญชีชื่อ “น้องอะตอม” มีพฤติกรรมลักษณะเดียวกัน คือเผยแพร่คลิปวิดีโอลามกอนาจารแบบสาธารณะ มียอดผู้ติดตามกว่า 13,000 ราย และได้เปิดกลุ่มลับในราคา 399 บาทต่อเดือน และมีเป้าหมายเพื่อใช้เป็นช่องทางในการค้าและโฆษณาเว็บไซต์พนันออนไลน์เช่นกัน
จึงได้สืบสวนจนทราบตัวเจ้าของบัญชีโซเชียลทั้ง 2 ราย จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับได้สำเร็จ
ต่อมา พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ ผกก.4 บก.สอท.2 ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจวางแผนเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย โดยสามารถจับกุม นายศรราม อายุ 25 ปี เจ้าของบัญชี “Call joy (ไม่นัด ตอบแค่แอคล็อค)” ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1369/2568 ลง 6 ต.ค.68 ได้ที่บริเวณริมถนนเชียงรากน้อย ต.เรียกรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา และจับกุม น.ส. พีรดา อายุ 24 ปี เจ้าของบัญชี “น้องอะตอม” ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1369/2568 ลง 6 ต.ค.68 ได้ที่บริเวณหน้าบ้าน ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ โดยแจ้งข้อหา “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อแจกจ่ายหรือแสดงอวดแก่ประชาชน รวมถึงผลิตหรือมีไว้เพื่อจำหน่าย”
นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจยึดของกลางที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด เช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ และสื่อบันทึกข้อมูลต่างๆ ซึ่งภายในมีคลิปวิดีโอและภาพลามกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.สอท.2 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
3) กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. รวบพ่อเลี้ยงหื่น อนาจาร 2 บุตรสาว อัดคลิปสะสม
สืบเนื่องจาก กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. หรือ TICAC ได้รับการร้องเรียนว่า มีชายรายหนึ่งในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา มีพฤติกรรมกระทำอนาจารต่อบุตรสาวผู้เป็นลูกเลี้ยงของตนเอง โดยพฤติกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นประจำ และยังได้มีการบันทึกภาพถ่ายและวิดีโอขณะทำอนาจารเก็บไว้ จึงประสานข้อมูลมายังตำรวจไซเบอร์ให้สืบสวนจับกุมและทำการช่วยเหลือ
ต่อมา พล.ต.ต.ทรงกลด เกริกกฤตยา ผบก.ตอท. ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ธีรนนท์ แมนมงคล ผกก.กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. ส่งเจ้าหน้าที่ออกสืบสวนกรณีดังกล่าว กระทั่งพบพยานหลักฐานและทราบตัวผู้ก่อเหตุ คือ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 32 ปี ซึ่งช่วงที่ผู้ต้องหาก่อเหตุได้คบหาอยู่กินฉันสามีภรรยา กับ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 50 ปี มารดาของบุตรสาววัย 12 ปี และวัย 9 ขวบที่ตกเป็นเหยื่อ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายค้นต่อศาลได้สำเร็จ
ต่อมา พ.ต.อ.ธีรนนท์ แมนมงคล ผกก.ฯ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธนพงศ์ธัช อ่อนชูเหมรัต, พ.ต.ท.หญิง ณิธิชา กลิ่นทอง และ พ.ต.ท.เขมอธิษฐ์ ทองคำ สว.ฯ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด TICAC นำหมายค้นศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ 127/2568 ลงวันที่ 7 ต.ค.68 เข้าตรวจค้นบ้านหลังเกิดเหตุในพื้นที่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเคยเป็นที่พักอาศัยของนายเอ
เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึง พบ น.ส.บี (อดีตแฟนสาวของนายเอ) พักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวและหมายค้นเพื่อขอตรวจค้น แต่ทาง น.ส.บี แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ปัจจุบันนายเอ ได้ย้ายออกไปพักอาศัยอยู่ที่ห้องพักคนงานไม่มีเลขที่แห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา แล้ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเดินทางไปตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าวตามที่ได้รับข้อมูล จึงได้พบกับ นายเอ อยู่บริเวณหน้าห้องพัก ดังกล่าว จึงได้ขอตรวจค้นห้องพัก ผลการตรวจค้น พบของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือ และ Micro SD Card ขนาดความจุ 2 GB ตรวจสอบข้อมูลภายใน พบสื่อลามกอนาจารของบุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 18 ปี อยู่จำนวนมาก
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ซักถามจนผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่า ตนเองมีพฤติกรรมกระทำอนาจารบุตรสาวทั้ง 2 คน
ของ น.ส.บี ภายในบ้านพักตามหมายค้นจริง และยังได้บันทึกภาพและวิดีโอเก็บไว้
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้น คือ “ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อประโยชน์ทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น” ในส่วนของข้อกล่าวหาอื่นๆ นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนปากคำผู้เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป ในส่วนเด็กผู้เสียหายทั้ง 2 คน เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกับบ้านพักเด็กจังหวัดฉะเชิงเทรา และมูลนิธิ OUR Rescue คุ้มครองเยียวยาและนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อช่วยเหลือและเยียวยาต่อไป
4) กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. รวบหมอทำขวัญ เปิดกลุ่มลับขายคลิปอนาจารเด็ก
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. หรือ TICAC ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า พบกลุ่มไลน์ที่มีการเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็ก โดยมีผู้ใช้บัญชีไลน์ชื่อ “เจ๊ปลา ***” เป็นผู้โพสต์สื่อลามกอนาจารดังกล่าว
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปลอมตัวติดต่อขอเป็นสมาชิกกลุ่มกับผู้ใช้บัญชีไลน์ดังกล่าว จึงได้รับการตอบกลับพร้อมส่งคลิปวิดีโอลามกอนาจารเด็กตัวอย่างมาให้ดู และเสนอค่าสมาชิกในราคา 79 บาท โดยให้โอนเงินผ่านระบบ QR Code ไปยังบัญชีธนาคาร เมื่อเจ้าหน้าที่ที่ปลอมตัวได้โอนเงินแล้ว จึงโดนดึงเข้ากลุ่มดังกล่าว ตรวจสอบข้อมูลภายในกลุ่ม พบว่าการเผยแพร่และจัดเก็บสื่อลามกอนาจารจำนวนมาก โดยมีภาพและวิดีโอคลิปอนาจารของเด็กผู้หญิงที่อายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวนหนึ่งด้วย
ต่อมา พล.ต.ต.ทรงกลด เกริกกฤตยา ผบก.ตอท. ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ธีรนนท์ แมนมงคล ผกก.กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. นำทีมเจ้าหน้าที่สืบสวน กระทั่งพบข้อมูลหลักฐานว่า นายธนวัตฯ ซึ่งมีอาชีพเป็นหมอทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี เป็นผู้รับผลประโยชน์จากการจำหน่ายสื่อลามกอนาจารเด็กผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ดังกล่าว จึงรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขอหมายค้นต่อศาล เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายได้สำเร็จ
กระทั่ง พ.ต.อ.ธีรนนท์ แมนมงคล ผกก.ฯ พร้อมด้วย พ.ต.ท.วิเชียร คำชุมภู และ พ.ต.ต.จิรเมธ บุตรน้ำเพชร สว.ฯ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด TICAC พร้อมหมายค้นศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 569/2568 ลงวันที่ 8 ตุลาคม 2568 เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ จ.ปทุมธานี เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึง ได้พบหญิงรายหนึ่ง (ขอสงวนนาม) เป็นผู้ครอบครองบ้านยืนอยู่บริเวณหน้าบ้าน จึงได้ขอเข้าตรวจค้นภายในบ้าน ผลการตรวจค้น พบโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งวางอยู่ในตะกร้าใกล้โต๊ะกลางของบ้าน ต่อมานายธนวัตฯ แสดงตัวว่าเป็นเจ้าของโทรศัพท์เครื่องดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลภายในโทรศัพท์ ปรากฏว่า พบไฟล์สื่อลามกอนาจารที่สามารถระบุได้ว่าเป็นภาพและวิดีโอของบุคคลอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวนมาก
เบื้องต้น นายธนวัตฯ รับสารภาพว่าตนเองได้ดาวน์โหลดคลิปและภาพสื่อลามกอนาจารเด็กจากกลุ่มไลน์อื่นๆ จากนั้นนำมาจำหน่ายต่อ โดยเริ่มทำมาแล้วประมาณ 1 เดือน โดยสามารถทำรายได้เฉลี่ยประมาณ 1,000–1,500 บาทต่อเดือน โดยให้ลูกค้าโอนผ่านระบบ QR Code เข้าบัญชีธนาคารของตนเอง
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา
1) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 (4)
2) ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม ป.อาญา มาตรา 287/1
3) เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสองแสนบาท ตาม ป.อาญา มาตรา 287/2
4) เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพหรือสิ่งอื่นใดอันลามก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม ป.อาญา มาตรา 287 ควบคุมตัวส่งดำเนินคดีตาม กฎหมาย
#ตำรวจไซเบอร์ #cyberpolice #สื่อลามก #ล่วงละเมิด #TICAC
#ตำรวจไซเบอร์ #CCIB