ตร.ไซเบอร์แถลงปฏิบัติการ "ล่าลวงหลอก"
ตร.ไซเบอร์แถลงปฏิบัติการ "ล่าลวงหลอก"
ขุดรากถอนโคน แก๊ง Call Center EP.2
ตรวจยึดของกลางมูลค่าเกือบ 10 ล้านบาท
.
กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี / วันนี้ (17 ส.ค.66) เวลา 15.00 น. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท. และ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว ปฏิบัติการ “ล่าลวงหลอก” ขุดรากถอนโคนขบวนการ Call Center EP.2 ในพื้นที่กรุงเทพ ณ อาคารประชุมสัมมนาและฝึกอบรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (เมืองทองธานี)
.
พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 เปิดเผยว่า บก.สอท.3 ได้รับเรื่องแจ้งความร้องทุกข์ผ่านระบบแจ้งความออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีผู้เสียหายได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์จากคนร้ายอ้างตัวเป็นพนักงานส่งพัสดุ Kerry Express แจ้งว่าตรวจพบสิ่งของในพัสดุ ที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด ซึ่งพัสดุดังกล่าวถูกส่งจากต้นทางจังหวัดตาก และปลายทางจังหวัดอุบลราชธานี โดยปรากฏชื่อผู้เสียหายเป็นผู้ส่งพัสดุ จากนั้นคนร้ายจึงแจ้งให้ผู้เสียหายติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยให้วิดีโอคอลคุยกับปลายสายซึ่งอ้างตัวเป็น ผกก.สภ.เมืองตาก (โปรแกรม AI) หลอกสอบถามข้อมูลส่วนตัวและเงินในบัญชีของผู้เสียหาย รวมถึงพูดจาหว่านล้อมให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่ามีการกระทำความผิดจริง โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินเพื่อเป็นการตรวจสอบ รวมทั้งสิ้น 9 ครั้ง เป็นจำนวนเงินกว่า 2,839,298.45 บาท ทั้งยังให้โอนเงินเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนผู้เสียหายเชื่อแน่ว่าตนถูกคนร้ายหลอกให้โอนเงิน จึงแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี
.
ภายหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 และ พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย รอง ผบก.สอท.3 จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.นิคม ชัยเจริญ ผกก.3 บก.สอท.3 พร้อมด้วย พ.ต.ท.ไพรวัลย์ อายุวงษ์ รอง ผกก.3 บก.สอท.3 เร่งรัดสืบสวนสอบสวนจับกุมตัวคนร้าย มีการโอนเงินไปยังบัญชีม้า แถวที่ 4-5 จากนั้นจึงมีการกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม (ATM) บริเวณ อ.แม่สาย จ.เชียงราย จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ จนกระทั่งสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายค้น/หมายจับผู้ต้องหา ทั้งผู้ทำหน้าที่กดเงินสด รวมถึงผู้รับจ้างเปิดบัญชีม้า จำนวนกว่า 15 ราย จนนำมาสู่ปฏิบัติการ “ล่าลวงหลอก” ขุดรากถอนโคน แก๊ง Call Center กำหนดเข้าปฏิบัติการตรวจค้นเป้าหมาย ในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย พร้อมกัน 2 จุด เมื่อวันที่ 12 ส.ค.66 ที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งผู้ที่ทำหน้าที่คุมบัญชีกดเงิน และบัญชีม้า ได้ 10 ราย ตรวจยึดของกลางซึ่งเป็นพยานหลักฐานสำคัญ และยึดทรัพย์สินที่เชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิด จำนวน 130 รายการ มูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท ภายหลังพบความเชื่อมโยงในการกระทำความผิดเป็นขบวนการ Call Center รายใหญ่ โดยที่ผ่านมากลุ่มผู้ต้องหารับว่าได้ร่วมกันกระทำความผิด ตั้งแต่ปลายปี 2565 จนถึงปัจจุบัน หลอกลวงผู้เสียหายมาแล้วหลายราย มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 300 ล้านบาท
.
พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 และ พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย รอง ผบก.สอท.3 จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.นิคม ชัยเจริญ ผกก.3 บก.สอท.3 พร้อมด้วย พ.ต.ท.ไพรวัลย์ อายุวงษ์ รอง ผกก.3 บก.สอท.3 สืบสวนขยายผลจนพบว่ามีเส้นทางการเงินที่ได้จากการหลอกผู้เสียหาย จำนวน 87 ล้านบาท เข้าบัญชีและมีการกดเงินสดออกในพื้นที่กรุงเทพ จำนวน 15 ล้าน จึงได้ตามรอยเส้นทางการกดเงิน จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาชาวเมียนมาที่ทำหน้าที่กดเงินจำนวน 1 ราย และกลุ่มผู้ต้องหาบัญชีม้า อีก 3 ราย
.
วันนี้ 17 ส.ค.2566 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงสั่งเปิดปฏิบัติการ “ล่าลวงหลอก” ขุดรากถอนโคน แก๊ง Call Center EP.2 ในพื้นที่กรุงเทพ สามารถจับกุมผู้ต้องหา Ms.Nang Moe Moe Aye สัญชาติเมียนมา ได้ 1 ราย สามารถตรวจยึดของกลางอีกเกือบ 10 ล้านบาท ดังนี้
1.เงินสด 4,440,000 บาท
2.IPAD AIR จำนวน 1 เครื่อง มูลค่า 40,000 บาท
3.MACBOOK Air จำนวน 1 เครื่อง มูลค่า 50,000 บาท
4.โทรศัพท์มือถือ iphone จำนวน 1 เครื่อง มูลค่า 50,000 บาท
5.สมุดบัญชีธนาคารจำนวน 17 ใบ
6.บัตรกดเงินสด ATM จำนวน 20 ใบ
7.กระเป๋าแบรนด์เนม Celine
8.กระเป๋าแบรนด์เนม LOUIS VUITTON
.
จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และสมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน”
.
สำหรับปฏิบัติการในครั้งนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท. ได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานติดตามจับกุมผู้ร่วมกระทำความผิดและไล่ล่ายึดทรัพย์เพื่อส่งกลับคืนแก่ผู้เสียหายต่อไป
.
#ตำรวจไซเบอร์ #สอท #CyberPolice #จับกุม #ยึดทรัพย์ #แก๊งคอลเซ็นเตอร์
#ตำรวจไซเบอร์ #CCIB