ตำรวจไซเบอร์จับเครือข่ายหลอกลงทุนออนไลน์

ตุ๋นนักธุรกิจโอนเงินหมดบัญชีกว่า 1.5 ล้าน

.

สืบเนื่องจาก ผู้เสียหายเป็นนักธุรกิจด้านโลจิสติกส์ ส่งออกสินค้าการเกษตรไปต่างประเทศ ได้รู้จักกับผู้ใช้งานเฟซบุ๊กรายหนึ่ง แล้วเกิดความสนิทสนมจนเปลี่ยนไปพูดคุยผ่านแอปไลน์ จากนั้นได้มีการชักชวนให้ผู้เสียหาย ลงทุนเกี่ยวกับการรีวิวสินค้า อ้างว่าได้รับผลตอบแทนสูง ตั้งแต่ 20-60 เปอร์เซ็นต์ของเงินลงทุน ผู้เสียหาย

จึงเกิดความสนใจ มิจฉาชีพจึงได้แนะนำให้ผู้เสียหายสมัครสมาชิกผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ปลอมที่สร้างขึ้น

.

ต่อมามิจฉาชีพได้แจ้งให้ผู้เสียหาย โอนเงินสมัครสมาชิก จำนวน 500 บาท พร้อมให้ส่งเอกสารประจำตัว เช่นสำเนาบัตรประจำตัวประชาน และบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย อ้างว่าเพื่อใช้ยืนยันตัวตน จากนั้นให้ติดต่อกับ “ครูพัช” ซึ่งอ้างตนว่าเป็นโคชในการฝึกสอนลงทุนกับแพลตฟอร์มข้างต้น

.

ต่อมาวันที่ 1 ส.ค. 2565 ผู้เสียหายเริ่มโอนเงินลงทุน 2,000 บาท เข้าบัญชีธนาคารส่วนบุคคลรายหนึ่ง จากนั้น ผู้เสียหายได้เลื่อนระดับเป็น VIP โดยโคช “ครูพัช” ได้แนะนำให้ลงทุนในระดับสูงขึ้น ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงโอนเงินเพิ่มอีก 10,000 บาท และอีกจำนวน 90,000 บาทในเวลาต่อมา จากนั้น “ครูพัช” อ้างว่าเงินกำไรได้มีจำนวนสูง จึงต้องโอนเงินค่าคอมมิชชั่น มิเช่นนั้นจะถอนเงินคืนไม่ได้ ผู้เสียหายจึงโอนเงินไปอีกจำนวน 211,829 บาท และ 500,000 บาท (สำหรับค่าคอมมิชชั่นครูพัช) จากนั้นผู้เสียหายได้ถูกหลอกให้โอนเงินเพิ่มอีกหลายครั้ง โดยมิจฉาชีพอ้างว่าเป็นการลงทุนให้ถึงขั้นต่ำ และเป็นค่าดำเนินการต่างๆ ซึ่งผู้เสียหายเสียเงินไปทั้งสิ้น ประมาณ 1.5 ล้านบาท สุดท้ายก็ยังถอนเงินคืนไม่ได้ แต่มิจฉาชีพก็ยังพยายามโน้มน้าวให้ผู้เสียหายโอนเงินลงทุนเพิ่มอีก จึงรู้ตัวว่าโดนหลอก จากนั้นจึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย

.

ต่อมา พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ร่วมกันเร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อหาตัวผู้กระทำผิด จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องได้หลายราย

.

กระทั่งวันที่ 13 ธ.ค.66 ว่าที่ พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ธนัช ธนาบุญประกอบ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3

นำกำลังพร้อมหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ เข้าจับกุมตัวหนึ่งในขบวนการดังกล่าว คือ นายคงจินดา อายุ 21 ปี ชาวอุตรดิตถ์ ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และโดยทุจริตหรือหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคลหนึ่ง” โดยควบคุมตัวได้บริเวณริมถนนสนามบินน้ำ-นนทบุรี ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี เบื้องต้น ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

.

กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.สถิต พรมอุทัย ผบก.สอท.3 ว่าที่ พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ธนัช ธนาบุญประกอบ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 และ พ.ต.ต.เอกสิทธิ์ พระศรี สว.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ พร้อมชุดสืบสวนร่วมกันจับกุม

.

#ตำรวจไซเบอร์ #สอท #จับกุม #หลอกลงทุน #หลอกโอนเงิน

#ตำรวจไซเบอร์  #CCIB