แถลงปฏิบัติการ Shutdown Gunrunner ตำรวจไซเบอร์บุกทลายแหล่งผลิตปืนเถื่อน

แถลงปฏิบัติการ Shutdown Gunrunner

ตำรวจไซเบอร์บุกทลายแหล่งผลิตปืนเถื่อน

.

สืบเนื่องจากตำรวจไซเบอร์ โดย กก.4 สอท.2 สืบสวนหาข่าวการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พบว่ามีการลักลอบจำหน่ายอาวุธปืน ชนิดปืนปากกา ปืนไทยประดิษฐ์ และเครื่องกระสุนปืน ผ่านช่องทางสื่อโซเชียล ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 พบการโพสต์จำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนผ่านสื่อสังคมออนไลน์จึงได้ขออนุมัติหมายค้นต่อ ศาลมีนบุรีและนำหมายเข้าตรวจค้น บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นทัี่ ซอย 4 หมู่บ้านเดอะคอนเนค 12 รามอินทรา 65 แยก 2-2-2 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย คือ 1.น.ส.พิตตินันท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี, 2.น.ส.สุวิน (สงวนนามสกุล) อายุ 57 ปีและ 3.นายชยุต (สงวนนามสกุล) อายุ36 ปีโดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมด้วยของกลาง อาวุธปืน 19 กระบอก และกระสุนปืนขนาดต่าง ๆ จำนวนกว่า 1,793 นัด

.

ต่อมาจึงได้สืบสวนขยายผลไปยังผู้สั่งซื้ออาวุธปืนจาก น.ส.พิตตินันท์และ นายชยุต (ผู้ต้องหาในคดีแรก) พบว่าข้อมูลการสั่งซื้อและการส่งกระสุนปืนหรืออาวุธปืนจำนวนมาก ผ่านการส่งพัสดุระบุชื่อผู้ส่งคือ “สมเพ็จ” ซึ่งเป็นชื่อที่นายชยุต ใช้ในการส่งพัสดุและ ระบุชื่อผู้รับ คือ นายสัมฤทธิ์หรือโอม (สงวนนามสกุล) ไปยังบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ซอยพุทธบูชา 36 แขวงทุ่งครุ เขตบางมด กรุงเทพฯ พบข้อมูลชื่อผู้พักอาศัยบ้านดังกล่าวตรงกันกับชื่อผู้รับพัสดุ จึงได้ขออนุมัติศาลค้นต่ออาญาธนบุรีและนำหมายเข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว

.

ผลการตรวจค้น พบของกลาง อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ โดยมีการดัดแปลงกลไก และลำกล้องจากสิ่งเทียมอาวุธปืน จำนวน 6 กระบอก, สิ่งเทียมอาวุธปืนที่กำลังถูกนำมาดัดแปลงกลไกและลำกล้อง จำนวน 9 กระบอก, ลำกล้องปืน ซองกระสุน และกระสุนปืนขนาดต่าง ๆ จำนวนกว่า 350 นัด จึงทำการจับกุมผู้ต้องหา คือ นายสัมฤทธิ์หรือโอม (สงวนนามสกุล) โดยกล่าวหาว่า “ผลิต ทำ และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ในชั้นนี้นายสัมฤทธิ์ รับว่าตนเองรับแปลงอาวุธปืน โดย เป็นการแปลงอาวุธปืนแบลงค์กัน (BLANK GUN) ให้กลายเป็นอาวุธปืนที่สามารถใช้ยิงกระสุนจริงได้

.

โดยผู้ต้องหาเปิดเผยว่า ตนได้เป็นสมาชิกอยุ่ในกลุ่มแอปพลิเคชันไลน์ชื่อ “ตลาดคนจริง ตป.ทบ เท่านั้น” โดยมีสมาชิกในกลุ่มกว่า 200 คน ภายในกลุ่มไลน์ดังกล่าว จะมีการโพสขายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนทุกวัน โดยสมาชิกในกลุ่มบางรายจะมีการโพสถามถึงเรื่องการแปลงปืนแบงค์กัน ตนจึงเข้าไปตอบและอาสาแปลงปืนให้สมาชิกที่สนใจในการแปลงปืนแบงค์กันให้เป็นอาวุธปืนที่สามารถใช้ กระสุนจริงยิงได้ โดยได้รับค่าแปลงปืนดังกล่าว กระบอกละประมาณ 2,000 บาท โดยต้นทุนหากซื้ออาวุธปืน BLANK GUN มาคัดแปลง ซื้อปืนมาในราคา ประมาณ 5,000 ถึง 7,000 บาท ถูกแพงแล้วแต่ยี่ห้อและความสวยงามของปืน มาเปลี่ยนเพียงแค่ลำกล้องปืนเป็นโลหะแข็งขึ้น และคัดแปลงแม๊กกาซีนเพื่อให้บรรจุกระสุนตามขนาดได้ ส่วนชุดลั่นไก เข็มแทงชนวนปืน BLANK GUN เดิมสามารถใช้งานได้เหมือนปืนจริง เพียงแต่เปลี่ยนลำกล้องเท่านั้นก็ใช้ได้ ปืนที่คัดแปลงแล้วสามารถใช้ยิงกระสุนจริงได้ มีประกาศขายทางออนไลน์ในราคาประมาณ 16,500 ถึง 17,000 บาท

.

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงจัดแถลงข่าวกรณี“ปฏิบัติการ Shutdown Gunrunner” ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ดำเนินการปราบปรามสืบสวนจับกุมอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน มือปืนรับจ้าง อย่างจริงจัง โดยเฉพาะการลักลอบขายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยมี พล.ต.ต.ฐายุฏฐ์ จันทร์ถาวร รอง ผบช.สอท.,พล.ต.ต.ไพโรจน์ สุขรวยธนโชติ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.สอท.2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าว ณ ห้องประชุมสัมมนา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(เมืองทองธานี)

.

#ตำรวจไซเบอร์ #จับกุม #ปืนเถื่อน


#ตำรวจไซเบอร์  #CCIB